ต้องเชื่อฟังคำสั่งเมีย! นุ่น-ท็อป วิวาห์ซาบซึ้งจนน้ำตาไหล
หลังจากคบหาดูใจมานานกว่า 8 ปี ในที่สุดคู่รักรักษ์โลก นุ่น ศิรพันธ์ วัฒนจินดา และ ท็อป พิพัฒน์ อภิรักษ์ธนากร ก็จูงมือกันเข้าสู่ประตูวิวาห์ในวันที่ 23 สิงหาคม 2558 ณ โรงแรมแลนด์มาร์ค กรุงเทพฯ ท่ามกลางญาติพี่น้องของทั้งสองฝ่าย แขกผู้มีเกียรติ เพื่อนดารานักแสดงและสื่อมวลชนที่มาร่วมแสดงความยินดี โดยรูปแบบการจัดงานยังคงเน้นความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
พิธีเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่เช้าโดยเป็นพิธีหมั้นแบบไทย และผูกข้อไม้ข้อมือแบบภาคเหนือซึ่งเป็นบ้านเกิดของเจ้าสาว โดยท็อปนำขบวนญาติพี่น้องและผองเพื่อนนำสินสอดทองหมั้นมามอบให้แก่ครอบครัวของนุ่น ประกอบด้วย โฉนดที่ดิน 1 แปลง เงินสด 1 ล้าน 5 แสนบาท แหวนเพชร 3 กะรัต และเครื่องเพชร 3 ชุด โดยการจัดงานเน้นที่ความพอเพียงและเรียบง่าย ส่วนชุดเพื่อนเจ้าบ่าวก็เป็น ชุดเก่าที่เคยใส่แล้วในงานแต่งงานอื่น
ในส่วนของการ์ดเชิญทำจากกระดาษสีน้ำตาล ที่สามารถรีไซเคิลได้มากกว่ากระดาษฟอกขาวทั่วไปโดยออกแบบ ให้สามารถนำซองกลับมาใช้ต่อได้และใช้กระดาษน้อยกว่าปกติ ส่วนสมุดเขียนอวยพรทำมาจากกระดาษ รียูส (Reuse) ใช้แล้วหนึ่งหน้าสำหรับบรรยากาศพิธีจัดเลี้ยงเป็นไปอย่างเรียบง่ายแต่อบอุ่นยิ่งนัก ในคอนเซปต์งานเลี้ยงที่รบกวนสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด และสร้างขยะเหลือทิ้งน้อยที่สุด
โดยดอกไม้ประดับตกแต่งงานจัดเป็น กระถางเล็กๆ ให้แขกนำกลับไปปลูกต่อที่บ้าน ส่วนอาหารเน้นเสิร์ฟอาหารออร์แกนิกและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ที่ใช้วัตถุดิบในประเทศทั้งหมด และที่แตกต่างจากงานแต่งงานทั่วไปมากที่สุดคือไม่มีเค้ก 7 ชั้นอลังการ เปลี่ยนเป็นการปลูกต้นไม้แทน ส่วนนักดนตรีที่มาบรรเลงเพลงเพื่อสร้างบรรยากาศภายในงาน เป็นนักดนตรีที่มีความบกพร่องทางการมองเห็น
พิธีงานในตอนเช้าเป็นยังไงบ้าง?
ท็อป "สำหรับพิธีการต้อนเช้าเป็นพิธีในครอบครัว มีญาติ และเพื่อนสนิท รวมถึงหลานๆ พิธีผูกข้อไม้ข้อมือ พอได้มีโอกาสทำจริงก็รู้สึกดีไปอีกแบบ เพราะแต่ก่อนเคยแต่ผูกข้อมือตอนไปทำรายการ"
นุ่น "สิ่งที่ชอบคือมีพิธีผูกข้อไม้ข้อมือ ที่มาจากเชียงใหม่ซึ่งเป็นบ้านเกิดของตน บรรยากาศซาบซึ้ง ร้องไห้หลายรอบมาก สบตาคุณแม่ไม่ได้เลย ต้องขอบคุณที่บ้านของตนและบ้านของท็อป ที่จัดงานออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบกว่าที่คิดไว้"
คุณแม่ของนุ่นฝากฝังอะไรไหม?
ท็อป "ได้มีคำปฏิญาณกับน้องชายของนุ่น ด้วยความที่เข้าไปอยู่ในครอบครัวทหาร จึงต้องมีการปฏิญาณกันนิดหนึ่ง ซึ่งมี 3 ข้อ ได้แก่ ให้เชื่อฟังคำสั่งภรรยา ให้เคารพภรรยา และให้รักษาสมบัติของครอบครัว นอกจากนี้คุณพ่อคุณแม่ได้ฝากฝังว่าให้รักกัน เข้าใจ และยอมรับในกันและกัน"
สินสอด?
ท็อป "ส่วนเรื่องสินสอดทองหมั้น บ้านผมก็จัดให้นุ่นตามสมควร ก็ไม่ได้มากมาย และไม่ได้มีน้อยจนเกินไป ผมคิดว่าเรื่องสินสอดมันเป็นเรื่องหนึ่งสำหรับประเพณี แต่สิ่งที่สำคัญผมว่าการที่มาอยู่ด้วยกันแล้วผมให้เกียรติเขา ในการที่จะได้เข้ามาดูแลบริษัท และดูแลสภาพความเป็นอยู่ของผมและคนในบริษัททั้งหมด ก็คิดว่าน่าจะได้มากกว่าสิ่งที่เป็นสินสอด ให้แล้วก็ด้วยความรัก ผมว่าน่าจะได้เต็มที่ ซึ่งจากเดิมผมเป็นเจ้าของทั้ง 2 บริษัท ตอนนี้ผมได้ยกให้นุ่นแล้ว และผมก็เป็นดีไซเนอร์เฉยๆ ตัวนุ่นเองก็เป็นซีอีโอของบริษัท เขาได้โอนชื่อเข้ามาแล้ว และเป็นคนที่มีอำนาจสูงสุดในบริษัท ฉะนั้นผมก็เลยไม่อยากที่จะมาบอกว่าวันนี้เราให้อะไรบ้าง เพราะว่าสิ่งที่ผมได้ให้ และได้เชื่อใจเขามันมีมากกว่าวันแต่งงานวันนี้ซึ่งเยอะจริงๆ สำหรับบริษัทผมจริงๆ ทั้ง 2 บริษัททำเกี่ยวกับงานอีโคดีไซน์ (Eco Design) ไม่ว่าจะบริษัทเล็กหรือบริษัทใหญ่ที่เป็นอีโค (Eco) เราจะเข้าไปทำให้ และอีกบริษัทหนึ่งชื่อว่า ทูเก็ต ทูเกเตอร์ (To Get Together) ทำเกี่ยวกับรายการทีวีให้นุ่นเป็นคนดูแล"
นุ่น "ไม่เป็นต้องห่วงนะคะ เรื่องสมบัติหรือสินสอด คือพอได้แต่งแล้วหลังจากวันนี้เป็นต้นไป เขายกบริษัทให้แล้ว"
เรื่องทะเบียนสมรส?
นุ่น "เราสองคนยังเลยค่ะ ก็เดี๋ยวดูฤกษ์กันอีกที"
เรื่องทายาท?
ท็อป "ส่วนเรื่องทายาทยังไม่ได้คิดเลยครับ คือเราก็ยังไม่กล้า เพราะเราก็ยังไม่แน่ใจว่าเราจะเป็นพ่อที่ดีได้ แต่เป็นสามีที่ดีพอคิดออกแล้ว แต่เป็นพ่อที่ดียังคิดไม่ออกเดี๋ยวรอเป็นสเต็ปต่อไปครับ"
นุ่น "กับเรื่องทายาทก็ยังค่ะ ก็คงอีกสักพักหนึ่ง"
สำหรับแพลนฮันนีมูน?
ท็อป "จะพ่วงไปกับการทำงานที่อิตาลี งานเวิลด์เอ็กซ์โป หลังจากเสร็จงานเรียบร้อยก็จะเที่ยวต่อ ถือว่าได้สองอย่างเลย เราไม่ได้ตั้งแพลนว่าจะไปฮันนีมูนที่ไหนยังไง ที่เลือกต่างประเทศไม่ใช่แพลนตอนแรกเหมือนกัน เราอยากจะเลือกในประเทศก่อน จริงๆ แล้วเราอยากจะลงไปทะเลบ้าง ทุกคนที่บ้านนุ่นเขาอยู่ที่เชียงใหม่ เลยอยากจะไปฮันนีมูนที่ทะเลในเมืองไทยเรา แต่พอดีว่าที่ไปอิตาลีเพราะไปทำงาน ไหนๆ ต้องไปแล้วก็เลยขอพักอีกหน่อยหนึ่ง เลยเรียกว่าฮันนีมูนไปเลยแล้วกัน ไปช่วงปลายเดือน ก.ย.ครับ ประมาณ 10 วัน"
งานแสดงในวงการยังอยู่ไหม?
นุ่น "ก็ยังทำต่อนะคะ จ้างได้นะคะ ยังอยากทำ นุ่นรักการแสดงค่ะ นุ่นไม่ได้เกี่ยงว่าบทจะต้องเป็นยังไง แต่ขอให้เป็นบทที่นุ่นอยากเล่นจริงๆ เดี๋ยวนุ่นจะเสนอหน้าไปขอเล่น อาจจะต้องแบ่งเวลาระหว่างงานในวงการกับบริษัท ไหนๆ เราจะฮุบเขาแล้ว เราก็ต้องให้มันเติบโตงอกงามได้กำไรเต็มที่ค่ะ"
มาถึงวันนี้ฝ่าฟัน และพิสูจน์อะไรกันมาบ้าง?
ท็อป "อยากจะบอกว่าคู่เรา ไม่ใช่ได้มาง่ายๆ ด้วยความที่เราตั้งใจจะเป็นตัวเราตั้งแต่แรก จะได้ไม่ต้องมาบอกว่าเปลี่ยนไป เพราะสุดท้ายเราก็จะเป็นคนเดิมเรานั่นแหละ พอเป็นตัวเองจากสองครอบครัวที่ต่างกัน ทำให้เราทะเลาะกันบ่อย ต้องมานั่งเคลียร์กันหลายๆ เรื่อง แต่สุดท้ายเราก็ผ่านไปได้ จนกลายเป็นเรื่องเล่าสนุกๆ และก็มาถึงวันนี้"
เหตุผลอะไรที่เราคิดว่า จะฝากชีวิตไว้กับเขาผู้ชายคนนี้ได้?
นุ่น "จริงๆ ทั้งหมดทั้งมวลคือเขาเป็นคนดี เมื่อเช้ามีการส่งตัว นุ่นก็ได้พูดความในใจกับป๊าและม้าของท็อปว่า จริงๆ ท็อปเป็นคนดีมาก แต่ความดีของเขามาจากบ้าน ขอบคุณป๊ากับม้าที่เลี้ยงเขาเป็นคนดี ซึ่งความเป็นคนดีของเขานี่แหละ ที่นุ่นคิดว่าจะสามารถทำให้เราไปด้วยกันได้"
ท็อป "ผมไม่ได้ต้องการผู้หญิงที่ดีมาจากที่ไหน บ้านจะเป็นยังไง ผมสนใจอย่างเดียวว่ามีคนคนหนึ่งอยู่กับเราด้วย ไม่ว่าในจุดที่จมดิ่งหรือพีคสุด ซึ่งเขาอยู่กับผมมา 8 ปี แล้วผมก็ไม่ใช่คนดีอะไรมาก แถมยังยากบางเรื่องด้วย แต่เขาก็ยังอยู่ด้วย ผมก็เลยขอเขาแต่งงาน เพราะว่าเขาอยู่กับผมด้วยครับ".