เหตุการณ์ภัยพิบัติช็อกโลกนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 เม.ย 58 เกิดแผ่นดินไหวในประเทศเนปาลที่วัดระดับความรุนแรงได้ 7.8 แมกนิจูด และเกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีกหลายระลอก ทำให้เกิดหิมะถล่มบนยอดเขาเอเวอร์เรสต์ อาคารมรดกโลกในกาฐมาณฑุพังเสียหาย และมีผู้เสียชีวิตรวมแล้วเกือบ 9,000 ราย บาดเจ็บอีกไม่ต่ำกว่า 23,000 ราย นับเป็นความสูญเสียที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งของโลก
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ประเทศไทยของเรานี่เอง 17 ส.ค. ได้มีคนร้ายลอบวางระเบิดศาลพระพรหมเอราวัณ ณ แยกราชประสงค์ กทม. ซึ่งสถานที่นี้มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเดินทางมาสักการะเป็นจำนวนมาก ทำให้มีผู้เสียชีวิต 27 ราย บาดเจ็บกว่าร้อยคน ซึ่งภาพวงจรปิดสามารถบันทึกภาพชายต้องสงสัยที่นำกระเป๋าเข้ามาวางภายในศาลพระพรหมได้ นำไปสู่การติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุซึ่งทำกันเป็นขบวนการใหญ่เลยทีเดียว
12 ส.ค. ได้เกิดเหตุระเบิดอย่างรุนแรงในพื้นที่ย่านผิงไห่ เทศบาลนครเทียนจิน ประเทศจีน โดยระเบิดติดกัน 2 ครั้ง ห่างกันประมาณ 30 วินาที และระเบิดซ้ำในวันที่ 15 สิงหาคม อีกครั้ง มียอดผู้เสียชีวิตรวมกว่า 104 คน ซึ่งในจำนวนผู้เสียชีวิตมีนักดับเพลิงที่เข้าไประงับเหตุหลายสิบคน รวมผู้บาดเจ็บกว่า 700 คน ในเหตุการณ์นี้เปลวเพลิงและกลุ่มควันพวยพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าสูงหลายเมตร
เป็นอีกเหตุการณ์สะเทือนใจที่เกิดขึ้นรับกับอาถรรพ์ศุกร์ 13 พ.ย. 58 เกิดเหตุกลุ่มคนร้ายพร้อมอาวุธครบมือ โจมตีด้วยระเบิดและกราดยิงหลายจุดทั่วกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ไม่ว่าจะเป็นที่สนามกีฬาสต๊าด เดอ ฟรองซ์, โรงละครบาตาคล็อง และร้านอาหารอีก 3 แห่ง ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตเกินกว่า 100 ราย และหลังเกิดเหตุกลุ่มก่อการร้าย IS ได้ออกมาประกาศตัวว่าอยู่เบื้องหลังการก่อการร้ายครั้งนี้ ซึ่งก็สอดคล้องกับที่ทีมสืบสวนค้นพบเช่นกัน ทำให้ประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ ของฝรั่งเศส เผยว่านี่คือการประกาศสงคราม ดังนั้นฝรั่งเศสจะต่อสู้อย่างถึงที่สุดและจะไม่มีการปรานี
เป็นประเด็นร้อนสุดฮอดมาแรงแซงประเด็นปฏิบัติการทำลายล้าง ISIS ในแถบซีเรียกันเลยทีเดียว เมื่อจู่ ๆ ตุรกีก็กระตุกหนวดเสือ ยิงเครื่องบินรบของรัสเซียตก อ้างเครื่องบินรัสเซียรุกล้ำน่านฟ้า งานนี้เลยทำให้ความบาดหมางระหว่างรัสเซีย-ตุรกีก่อตัวขึ้น จนถึงตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศก็ยังคงอยู่ในภาวะมาคุ
เมื่อทางการไทยได้ส่งตัวชนกลุ่มน้อยอุยกูร์ จำนวน 109 คน ที่ลักลอบอพยพอย่างผิดกฎหมายจากเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ประเทศจีน แต่อ้างตัวว่าเป็นชาวตุรกี กลับไปยังแผ่นดินจีนตามคำขอร้องของรัฐบาลจีน หลังจากพิสูจน์พบว่าทั้งหมดมีสัญชาติจีน หลังจากที่ทางการไทยส่งตัวชาวอุยกูร์กลับจีนแล้ว ชาวตุรกีจำนวนหนึ่งซึ่งสนับสนุนชาวอุยกูร์ที่อพยพจากจีน ได้เกิดความโกรธแค้นมาก พากันบุกเข้าไปในสถานกงสุลไทยประจำกรุงอิสตันบูลของตุรกี และระบายความเคียดแค้นด้วยการทำลายประตูและข้าวของภายในสำนักงานเสียหาย หลังจากประเด็นนี้กลายเป็นประเด็นร้อนฉ่าขึ้นมา สหภาพยุโรปและกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ก็ได้ออกแถลงการณ์ประณามรัฐบาลไทยว่า การส่งผู้ลี้ภัยชาวอุยกูร์กลับให้ประเทศจีนนั้น เป็นการละเมิดกฎหมายสิทธิมนุษยชนสากลหลายข้อ ขอประณามไทยที่บังคับและเนรเทศชนกลุ่มน้อยอุยกูร์กว่า 100 คน ไปยังประเทศจีน เพราะกลุ่มผู้อพยพเหล่านั้นมีโอกาสถูกปฏิบัติด้วยความรุนแรงจากกระบวนการทางกฎหมายของจีน
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ 11 ก.ย. 58 เมื่อเครนขนาดใหญ่ที่มัสยิดศักดิ์สิทธิ์ สถานที่ประกอบพิธีฮัจญ์ เกิดถล่มลงมาหลังจากสภาพอากาศเลวร้าย ลมกรรโชกแรง และช่วงเวลาเกิดเหตุนั้น เป็นช่วงที่ศาสนิกชนกำลังไปรวมตัวกันเพื่อทำละหมาดพอดี เหตุการณ์นี้จึงทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 107 ราย และมีผู้บาดเจ็บอีกไม่ต่ำกว่า 230 ราย และ ต่อมาเมื่อวันที่ 24 ก.ย. 58 ก็เกิดเหตุการณ์ร้ายๆสุดสลดเกิดขึ้นซ้ำที่เมืองมีนา เมืองเล็ก ๆ ที่อยู่ห่างจากนครเมกกะไปเพียง 5 กิโลเมตร เมื่อผู้แสวงบุญเกิดเหยียบกันตายขณะกำลังร่วมพิธีขว้างเสาหิน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการประกอบพิธีฮัจญ์ เหตุชุลมุนครั้งนี้ได้ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 717 ราย และบาดเจ็บอีกไม่ต่ำกว่า 800 ราย
10. เรื่องช็อกที่เพิ่งเกิดขึ้นสดๆร้อนๆ พิธีกรประกาศผล Miss Universe 2015 ผิดพลาด
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่สูญเสียชีวิตแต่เป็นเรื่องที่ทำให้เสียความรู้สึกและเสียใจกันไม่น้อยเมื่อสตีฟ ฮาร์วีย์ พิธีกรที่ประกาศผล Miss Universe ผิดพลาดซึ่งเขาประกาศว่านางงามโคลอมเบียเป็นสาวงามผู้คว้ามงกุฎ Miss Universe 2015และเธอก็ได้ถูกสวมมงกุฎและสายสะพายพร้อมกับรับดอกไม้แล้ว แต่เธอก็ดีใจกับมงกุฏได้ไม่นาน เพราะหลังจากนั้นพิธีกรได้ประกาศขอโทษกับผลรางวัลที่ผิดพลาด เพราะที่จริงตำแหน่ง Miss Universe 2015 คือ นางงามฟิลิปปินส์ ทำให้ต้องมีการถอดมงกุฎกันกลางเวทีเลยทีเดียว และเรื่องนี้ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์กลายเป็นดราม่ากันอยู่ในโลกออนไลน์เป็นอย่างมาก