ศาลอุทธรณ์ภาค 7 นัดฟังคำพิพากษาคดีฆ่าข่มขืน น้องแก้ม เด็กหญิงวัย 13 ปี ที่เสียชีวิตหลังโดยสารขบวนรถไฟสายนครศรีธรรมราช-กรุงเทพฯ ซึ่งศาลจังหวัดหัวหินมีคำพิพากษาประหารชีวิตนายวันชัย แสงขาว
เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 14 ก.ย. ศาลอุทธรณ์ภาค 7 นัดฟังคำพิพากษาคดีฆ่าข่มขืน น้องแก้ม เด็กหญิงวัย 13 ปี ที่เสียชีวิตหลังโดยสารขบวนรถไฟสายนครศรีธรรมราช-กรุงเทพฯ โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2557 ที่ผ่านมา ที่ศาลจังหวัดหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยศาลได้เบิกตัวนายวันชัย หรือ เกม แสงขาว จำเลย จากเรือนจำกลางบางขวาง มายังเรือนจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันศุกร์ที่ 11 ก.ย. ที่ผ่านมา และเดินทางมาฟังคำพิพากษาอุทธรณ์ที่ศาลจังหวัดหัวหิน แทนการใช้ระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ เนื่องจากเป็นคดีสำคัญสะเทือนขวัญและประชาชนให้ความสนใจอย่างมาก
โดยในช่วงเช้ามีนายวันชัย บุญนาค ทนายโจทย์ร่วม พร้อมด้วยญาติของน้องแก้ม คือ พี่ชายของน้องแก้มและญาติรวม 2 คน ซึ่งสวมเสื้อดำมีข้อความว่า 1 คนตาย = 1 ล้านคนตื่น ได้เดินทางมายังศาลจังหวัดหัวหิน เพื่อรับฟังคำพิพากษาด้วย
ทั้งนี้นายวันชัย บุญนาค ทนายความ กล่าวว่า หลังนายวันชัย แสงขาว จำเลยที่ 1 ได้ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาประหารชีวิตของศาลชั้นต้น โดยอ้างว่าสำนึกผิดแล้ว เพื่อขอให้ศาลปราณีบรรเทาโทษและลงโทษสถานเบานั้น ส่วนนายณัฐกร หรือ หนึ่ง ชำนาญ พนักงานทำความสะอาดตู้รถไฟขบวนเดียวกัน จำเลยที่ 2 ไม่ยื่นอุทธรณ์คดี โดยยอมรับโทษจำคุก 4 ปี ตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นนั้น ตนได้เป็นโจทย์ร่วมขออุทธรณ์คดี มีความเห็นเช่นเดียวกับศาลชั้นต้น ให้ลงโทษสถานหนักตามคำพิพากษาของศาล เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2557
ซึ่งศาลจังหวัดหัวหินมีคำพิพากษาประหารชีวิตนายวันชัย แสงขาว เพราะพฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง จึงพิพากษาลงโทษสถานหนักให้ประหารชีวิต ส่วนการเยียวยาให้กับญาติโดยการรถไฟแห่งประเทศไทย 8 ล้าน 5 แสนบาท เมื่อรวมค่าเยียวยาอื่นๆ และค่าทำศพ ได้รับแล้วประมาณ 10 ล้านบาท
นายพัฒนชัย พี่ชายของน้องแก้ม กล่าวว่า ทางครอบครัวเริ่มมีสภาพจิตใจดีขึ้นบ้างแล้ว แต่ก็ยังถือว่าไม่สมบูรณ์นัก วันนี้คุณแม่ของน้องแก้มไม่สามารถมาร่วมฟังคำพิพากษาได้ เพราะต้องพักฟื้นหลังจากการผ่าตัดช็อกโกแลตซีสต์ ส่วนครอบครัวได้มาเป็นตัวแทนรับฟังคำพิพากษา ซึ่งหวังจะได้รับความเมตตาจากศาล
เวลา 10.30 น. วันเดียวกัน ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 2 นายชัยรัตน์ ชูแก้ว ผู้พิพากษารองหัวหน้าศาลจังหวัดหัวหิน ได้ออกนั่งบัลลังก์เพื่ออ่านคำพิพากษาคดีฆ่าข่มขืน น้องแก้ม เด็กหญิงวัย 13 ปี
โดยศาลได้พิจารณาแล้วเห็นว่า นายวันชัย แสงขาว จำเลยที่ 1 ได้ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาประหารชีวิตของศาลชั้นต้น โดยอ้างว่าสำนึกผิดแล้ว เพื่อขอให้ศาลปราณีบรรเทาโทษและลงโทษสถานเบานั้น คำสารภาพฟังไม่ขึ้น ไม่จำเป็นต้องฟังคำรับสารภาพของจำเลย จึงไม่มีเหตุบรรเทาโทษ คงให้ยืนโทษตามศาลชั้นต้น ตัดสินประหารชีวิต นายวันชัย แสงขาว จำเลยที่ 1
ซึ่งระหว่างที่ศาลอ่านคำพิพากษา นานประมาณ 20 นาที นั้น นายวันชัย แสงขาว ยังคงมีท่าทีและสีหน้าเรียบเฉยตลอดเวลา แม้ศาลจะอ่านคำพิพากษาจนจบแล้วก็ตาม
นายวันชัย บุญนาค ทนายโจทย์ร่วม พร้อมด้วยญาติของน้องแก้ม ให้สัมภาษณ์ว่า ทางญาติมีความมั่นใจในกระบวนการยุติธรรมมาตั้งแต่ต้นแล้ว และเชื่อมั่นว่าจะได้รับความเป็นธรรม โดยศาลได้ทำงานอย่างเต็มที่แล้ว ซึ่งทางตนและญาติเพียงแต่ติดตามเท่านั้น
นายสมเจตต์ อำนวยสวัสดิ์ หัวหน้าศาลอุทธรณ์ ภาค 7 กล่าวว่า จำเลยยังคงมีสิทธิที่จะยื่นฎีกาได้ตามกฎหมาย ซึ่งจะต้องดูประเด็นว่าจะมีการโต้แย้งในประเด็นใดบ้าง ก็จะแก้ฎีกาไป แต่ในส่วนของฎีกานั้นทางตนคงไม่ยื่น หากจำเลยที่ 1 เห็นว่าคำพิพากษาของศาลยังมีความไม่เหมาะสม ก็สามารถยื่นฎีกาได้
ที่มา : khaosod
