loading...

พริตตี้รับ-คดีแทง2ศพ ทั้ง”เสี่ย-มือมีด”กิ๊กทั้งคู่

สาวต้นตอแทงกันตาย 2 ศพ รับเปิดห้องเสพยากับเสี่ย ก่อนหนุ่มมือมีดจะบุกเข้ามาก่อเหตุ ผบก.น.4 เร่งหาทรัพย์สิน ยันวันเกิดเหตุปิดกั้นพื้นที่แล้วแต่ก่อนหน้านั้นใครเข้าออกยังไม่รู้
new31
สาวต้นตอแทงกันตาย 2 ศพ รับเปิดห้องเสพยากับเสี่ย ก่อนหนุ่มมือมีดจะบุกเข้ามาก่อเหตุ ผบก.น.4 เร่งหาทรัพย์สิน ยันวันเกิดเหตุปิดกั้นพื้นที่แล้วแต่ก่อนหน้านั้นใครเข้าออกยังไม่รู้ ส่วนรถหนุ่มมือมีด เป็นรถของสาว ตร.ยึดมาที่โรงพักแล้ว ค้นไม่เจอทรัพย์สิน เผยหนุ่มมือมีดเคยเป็นลูกน้องคนสนิทเสี่ย แต่หักกันเรื่อง ผู้หญิง ก่อนจะมาชอบสาวต้นเหตุคนเดียวกัน ส่วนเจ้าตัวปกปิดไม่ให้ชายทั้ง 2 คนรู้ ซ้ำยังไม่ทราบว่าชายทั้งคู่รู้จักกันมาก่อน จนวันเกิดเหตุถูกกดดันเรื่องคลิป เลยโทร.ตามหนุ่มคนสนิทบินด่วนจากหาดใหญ่ มาถึงห้องต้องผงะ เมื่อรู้ว่าชายที่ข่มขู่คืออดีตคนคุ้นเคย ด้วยมีแค้นเป็นทุนเดิม จึงสู้กันจนตายทั้งคู่ ตร.ยังตั้ง 2 ประเด็น ชู้สาว ประสงค์ต่อทรัพย์
จากกรณีเมื่อวันที่ 11 ก.ย. ที่ผ่านมา นายกฤษฎา ศรีนรินทรานนท์ อายุ 43 ปี อดีต ผู้บริหารสถานบันเทิงแห่งหนึ่งย่านรัชดาฯ ใช้อาวุธมีดพกสั้นต่อสู้กับนายธัชกร เหลืองอุทัย อายุ 28 ปี จนเสียชีวิตทั้งคู่ เหตุเกิดภายในห้องเลขที่ 502 ชั้น 5 เอเชีย รีสอร์ท เลขที่ 24/46-48 ซอยแจ่มจันทร์ ถนนประเสริฐมนูกิจ แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม. โดยมีน.ส.ณัฏฐณิชา หรือเอ๊ะ สวัสดิผล อายุ 23 ปี ได้รับบาดเจ็บที่แขนขวา สอบสวนทราบว่า นายกฤษฎาได้มาเปิดห้องพักพร้อมกับน.ส.ณัฏฐณิชา จากนั้นนายธัชกรแอบเข้ามาทางบันไดหนีไฟ ก่อนบุกเข้าไปภายในห้อง กระทั่งเกิดการต่อสู้กันจนเสียชีวิตทั้งคู่
ส่วนน.ส.ณัฏฐณิชาได้รับบาดเจ็บไปด้วย เบื้องต้นพบว่าทรัพย์สิน อาทิ สร้อยคอทองคำพร้อมพระเครื่อง และสร้อยข้อมือทองคำของนายกฤษฎาหายไป จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เค้นสอบปากคำน.ส.ณัฏฐณิชา จนยอมรับสารภาพว่า เป็นคนนัดให้นายธัชกรบินด่วนมาจาก อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มาก่อเหตุ โดยให้ปลอมตัวเป็นตำรวจเพื่อมายึดโทรศัพท์มือถือของนายกฤษฎา เนื่องจากถูกถ่ายคลิปขณะเสพยาไว้เพื่อแบล็กเมล์ เมื่อมาถึงที่ห้อง นายกฤษฎาเกิดไหวตัวทันกระทั่งเกิดเหตุดังกล่าว ส่วนทรัพย์สินไม่ทราบว่าหายไปไหน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความ คืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 14 ก.ย. พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.น.4 ได้เดินทางมาที่ สน.ลาดพร้าว จากนั้นได้เบิกตัวน.ส.ณัฏฐณิชา ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาใช้จ้างวานส่งเสริมให้ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ตามหมายจับของศาลอาญาที่ 2006/2558 ลงวันที่ 13 ก.ย. 2558 ออกจากห้องควบคุมเพื่อสอบปากคำ โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง
พล.ต.ต. นันทชาติเปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สอบปากคำน.ส.ณัฏฐณิชา ผู้ต้องหาไปแล้วบางส่วน โดยรับว่าได้นัดหมายกับนายกฤษฎา เพื่อมาเสพยาอีที่ห้องพักดังกล่าว จึงต้องนำตัวผู้ต้องหาไปตรวจหาสารเสพติดที่สถาบันธัญญารักษ์ จ.ปทุมธานี คาดว่าน่าจะใช้เวลากว่า 3 ช.ม. ส่วนเรื่องการทำแผนประกอบคำรับสารภาพนั้น ต้องรอหลังจากที่ผู้ต้องหากลับจากการตรวจสารเสพติดเสียก่อน เพื่อที่จะนำมาสอบเพิ่มเติมแล้วจะนำไปชี้จุดเกิดเหตุในช่วงค่ำ ถ้าหากไม่ทันก็จะเลื่อนไปทำแผนในวันพรุ่งนี้ (15 ก.ย.) ก่อนจะนำตัวไปฝากขังต่อไป
พล.ต.ต.นันทชาติกล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องรถเก๋งที่นายธัชกร หนุ่มมือมีดขับมาจอดในวันเกิดเหตุและหายไปหลังเกิดเหตุนั้น ขณะนี้ได้ดำเนินการตรวจสอบแล้ว และจะเรียกเจ้าของรถมาสอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกันอย่างไร สำหรับทรัพย์สินของนายกฤษฎา ได้แก่ สร้อยข้อมือทองคำหนัก 5 บาท สร้อยคอทองคำหนัก 9 บาท พร้อมพระเครื่องอีก 3 องค์ ที่หายไปนั้น ตนยืนยันว่าตอนไปถึงที่เกิดเหตุในช่วงแรกๆ ก็ได้สั่งให้มีการกั้นพื้นที่และไม่ปล่อยให้ใครเข้าไป และก็ไม่ทราบว่าทรัพย์สินหายไปตอนไหน จึงต้องตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อดูว่าก่อนที่เจ้าหน้าที่จะไปถึงมีใครเข้าไป ในห้องที่เกิดเหตุหรือไม่ ถ้าพบจะเรียกมาสอบปากคำเพิ่มเติมต่อไป
ต่อ มา เมื่อเวลา 19.00 น. วันเดียวกัน พ.ต.ท.คณบดี เลิศอมรศักดิ์ รอง ผกก.สส.สน.ลาดพร้าว เปิดเผยว่า หลังจากเจ้าหน้าที่นำตัวน.ส.ณัฏฐณิชาไปตรวจหาสารเสพติดที่สถาบันธัญญารักษ์ ก็ต้องรอผลตรวจใน 7 วัน โดยเบื้องต้นควบคุมตัวไว้ในห้องขังก่อน ส่วนความคืบหน้าด้านการสืบสวนขณะนี้รายละเอียดประเด็นสำคัญคลี่คลายลงมาก แล้ว ด้านรถยนต์เชฟโรเลต สีขาว ที่นายธัชกร ขับมาที่โรงแรมในวันเกิดเหตุก็เป็นรถของน.ส.ณัฏฐณิชา
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้นำมาที่ สน.ลาดพร้าว และตรวจค้นภายในรถก็ไม่พบสิ่งผิดสังเกตหรือทรัพย์สินใดๆ ซึ่งเรื่องทรัพย์ของนายกฤษฎาที่ญาติระบุว่าหายไป ทางเจ้าหน้าที่ก็จะสืบสวนต่อไป แต่ประเด็นนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องมาตรวจสอบกล้องวงจรปิดอีกครั้งว่าใครเข้าออกห้อง ดังกล่าวบ้าง รวมทั้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่อาจจะต้องเรียกมาตรวจสอบ
ผู้ สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายกฤษฎา หรือคนในวงการสถานบันเทิงเรียกกันว่า เสี่ยอาร์ท ก่อนหน้านี้ได้เป็นหุ้นส่วนรายใหญ่ของสถานบันเทิงชื่อดังแห่งหนึ่ง ย่านรัชดาฯ โดยมีนายธัชกร หรือโอ๊ต เป็นลูกน้องคนสนิท ต่อมานายธัชกรเริ่มมีปัญหาระหองระแหงกับนายกฤษฎาเรื่องผู้หญิงจนต้องแยกทาง กัน จากนั้นนายธัชกรและนายกฤษฎาเกิดไปชอบพอกับน.ส.ณัฏฐณิชา ซึ่งเป็นพริตตี้ตามงานแสดงสินค้าต่างๆ โดยที่ทั้งคู่ไม่รู้ว่าชอบ ผู้หญิงคนเดียวกัน น.ส.ณัฏฐณิชาก็พยายามปกปิดไม่ให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดรู้ โดยที่ตัวน.ส.ณัฏฐณิชาเองก็ไม่ทราบเช่นกันว่าผู้ชายทั้ง 2 คน รู้จักกันมาก่อน
จนวันเกิดเหตุ น.ส.ณัฏฐณิชามีความคับแค้นใจที่นายกฤษฎานำคลิปเสพยามาข่มขู่จะแบล็กเมล์ จึงโทรศัพท์ไปเล่าให้นายธัชกรฟังแล้วให้รีบเดินทางมาที่กทม. แต่เมื่อนายธัชกรเข้ามาที่ห้องก็พบว่าผู้ชายคนที่พยายามจะแบล็กเมล์น.ส.ณัฏ ฐณิชา คือ เสี่ยอาร์ท อดีตคนคุ้นเคยนั่นเอง ด้วยความคับแค้นใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทั้ง 2 คนจึงต่อสู้กันจนเกิดเหตุดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องชู้สาว หรือประสงค์ต่อทรัพย์ หลังจากนี้จะได้สอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงรวมทั้งทรัพย์สินของนายกฤษฎาว่าหาย ไปได้อย่างไร ก่อนดำเนินการต่อไป

ที่มา : khaosod

Related Posts:

loading...