This is default featured slide 1 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.This theme is Bloggerized by Lasantha Bandara - Premiumbloggertemplates.com.

This is default featured slide 2 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.This theme is Bloggerized by Lasantha Bandara - Premiumbloggertemplates.com.

This is default featured slide 3 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.This theme is Bloggerized by Lasantha Bandara - Premiumbloggertemplates.com.

This is default featured slide 4 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.This theme is Bloggerized by Lasantha Bandara - Premiumbloggertemplates.com.

This is default featured slide 5 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.This theme is Bloggerized by Lasantha Bandara - Premiumbloggertemplates.com.

loading...

ดราม่าไม่จบ แห่พิสูจน์ “ข้าวกะเพรา 150 บาท“ บางเสียงบอก..คุ้มราคา

ดราม่าไม่จบ แห่พิสูจน์ “ข้าวกะเพรา 150 บาท“ บางเสียงบอก..คุ้มราคา
นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com
(30 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมออนไลน์ หลังกรณีร้านอาหารตามสั่งข้างทางแห่งหนึ่ง ขายเมนูข้าวกะเพรารวมมิตร ราคาจานละ 150 บาท โดยที่คุณป้าเจ้าของร้านก็ได้ออกมาชี้แจงว่า เหตุที่ราคาอาหารแพง เพราะใส่ใจในคุณภาพและใช้วัตถุดิบที่ดีเพื่อลูกค้าโดยเฉพาะ
ล่าสุด สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม คุณ ทำไมถึงไม่ผ่าน ได้ตั้งกระทู้รีวิวร้านอาหารดังกล่าว หลังจากที่กลายเป็นข่าวโด่งดังเพียงข้ามวัน ชื่อกระทู้ว่า "รีวิว กะเพราะเจ้าปัญหา จานละ 150 บาท ทานมาเมื่อสักครู่" ซึ่งกำลังได้รับความสนใจจากผู้คนในโลกออนไลน์ในเวลานี้ พร้อมกับเริ่มเกิดเสียงความคิดเห็นที่แตกต่างกันออกไป
คุณ ทำไมถึงไม่ผ่าน เจ้าของกระทู้ได้เดินทางไปทานอาหารที่ร้าน "กะเพรารวมมิตร จานละ 150 บาท" บรรยายว่า ร้านอาหารแห่งนี้ วันนี้เต็มไปด้วยลูกค้าที่เดินทางมาพิสูจน์กันอย่างเนื่องแน่น อีกทั้งยังมีข่าวโทรทัศน์มาสัมภาษณ์และทำสกู๊ปข่าวอยู่ โดยได้สั่งอาหารไป 2 เมนู คือ ข้าวกะเพรารวมมิตร..ที่เป็นข่าวดัง และ ข้าวกะเพราปู เพิ่มไข่ดาว
ผลปรากฏที่ได้ คุณ ทำไมถึงไม่ผ่าน ยอมรับว่า "ข้าวกะเพรารวมมิตร" ทางร้านได้ใช้วัตถุดิบที่มีความสดใหม่และสะอาดจริง กุ้งขนาดใหญ่กว่าร้านอาหารตามสั่งทั่วๆ ไป อีกทั้งรสชาติยังสอบผ่าน ไม่เผ็ด ไม่คาว และสามารถขอเพิ่มปริมาณข้าวได้ตามสบาย
ส่วนเมนู "ข้าวกะเพราปู เพิ่มไข่ดาว" นั้น ราคาจานละ 100 บาท แต่เน้นปริมาณเนื้อปูเต็มๆ อีกทั้งปริมาณยังเพิ่มพูนและดูเหมาะสมกับราคาที่ขาย สรุปแล้ว คุณเจ้าของกระทู้ มีความเห็นว่า ราคากับปริมาณและคุณภาพอาหาร ถือว่าโอเคดี และยืนยันว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับทางร้าน แค่เป็นลูกค้าคนหนึ่งที่ต้องการพิสูจน์ประเด็นที่ถกเถียงกันในสังคม
นอกจากนี้ ยังมีการสอบถามเจ้าของร้านอาหารแห่งนี้ ก็ยืนยันว่า ขายราคาเท่านี้และให้ปริมาณเท่านี้มาโดยตลอด ขณะที่ร้านอาหารตามสั่งราคาปกติ 30-40 บาท ที่ตั้งร้านขายในละแวกนั้น ช่วงนี้ก็ต้องเงียบเหงาลงไปนิดหน่อย เนื่องจากหลายคนต้องการมาพิสูจน์ที่ร้านอาหารเจ้าปัญหาแห่งนี้
อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นแตกต่างกันออกไป บางคนได้เปรียบเทียบและสังเกตว่า ทางร้านเพิ่มปริมาณให้เป็นพิเศษ เนื่องจาก ข้าวกะเพรารวมมิตร ที่ตกเป็นข่าว พบว่า ทางร้านเสิร์ฟกุ้งให้ 4 ตัว แต่เมื่อกลายเป็นข่าวและเจ้าของกระทู้ไปลิ้มลอง เสิร์ฟกุ้งให้ 6 ตัว อีกทั้งยังพบว่า ร้านอาหารแห่งนี้ ยังไม่มีการติดป้ายบอกราคาชัดเจนอีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลจากกระทู้คุณ ทำไมถึงไม่ผ่าน จากเว็บไซตพันทิป
M10o93H7pQ09L8X1t49cHY01Z5j4TT91fGfr
M10o93H7pQ09L8X1t49cHY01Z5j4TT91fGfr
M10o93H7pQ09L8X1t49cHY01Z5j4TT91fGfr

ที่มา http://news.sanook.com/1874406/
http://news.sanook.com/1874406/

+.เมืองไทยจากมุมสวยที่คุณไม่เคยมอง.+ Part 1

+.เมืองไทยจากมุมสวยที่คุณไม่เคยมอง.+ Part 1
ปางอุ๋ง.... ที่แม่ฮ่องสอน


ทุ่งแสลงหลวงที่พิษณุโลก


นาขั้นบันไดที่ขุนยวม ที่แม่ฮ่องสอน


หมอกเช้า ๆ ที่ทางเข้าน้ำตกหมักแดง....ที่เพชรบูรณ์


วันสบายที่สีชัง..ชลบุรี


สวนดาวเรืองที่เขื่อนศรีครินทร์ .... กาญจนบุรี


ท่าแพขนานยนต์ที่น้ำตกห้วยแม่ขมิ้นกาญจนบุรี


วันสบาย ๆ ที่หน่วยบึงไผ่บนเขาใหญ่..ปราจีนบุรี


ฟาร์มแกะที่ สระบุรี


ฟาร์มม้าที่ไร่องุ่นปภัสรา


สบาย ๆ ริมทะเลเกาะทะลุประจวบ


ชีวิตน้อย ๆ ที่เขาสอยดาว จันทบุรี


ขับขี่ให้ระวังชีวิตน้อย ๆ ที่ปางสีดาสระแก้ว


พญาเสือโคร่งขุมแม่นะเชียงใหม่


เช้าวันใหม่บนดอยอ่างขางเชียงใหม่


ทิวลิปนนท์นนทบุรี


พักผ่อนใกล้บ้านสาริกาแอดเวนเจอร์นครนายก


วันฟ้าใสที่ Coffee hill เขาค้อเพชรบูรณ์


ไว้เดี๋ยวมาต่อ Part II ฮะ

ที่มา:http://www.soccersuck.com/boards/topic/931298
Credit : เจ้าหญิงวุ่นวาย Never Die

รวมเรื่องแปลกก่อนวันหวยออก 1 ต.ค. 58

“เดลินิวส์ออนไลน์” รวบรวมเรื่องแปลกและข่าวแปลก ซึ่งมีหลากหลายเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วง 15 วันที่ผ่านมา ก่อนหวยออกงวดประจำวันที่ 1 ต.ค. 58 มานำเสนอดังนี้…
ลุ้นไปตามๆกันกับผลรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลงวดประจำวันที่ 16 ก.ย. 58 โดยรางวัลที่ 1 ได้แก่ 743148 เลขท้าย 3 ตัว 084, 375 เลขหน้า 3 ตัว 209, 435 และเลขท้าย 2 ตัว 06
new26
แห่ขุด พระ-วัตถุโบราณ หลังเกจิดังนั่งทางในเห็น เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่ วัดป่าโสรโย บ้านขุมดิน ต.กุดเค้า อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น หลังหลังครูบาสุวิทย์ ชินนวะโร อายุ 23 ปี หรือที่ชาวบ้านเรียกกัน ว่า ครูบาไก่ นั่งทางในจนนิมิตเห็นพระเครื่องและวัตถุโบราณจำนวนมาก เนื่องจากชาวบ้านนำเรื่องราวเกี่ยวกับปรากฏการณ์ประหลาด ทั้งลูกไฟตก และการป่วยไม่ทราบสาเหตุมาขอให้พระอาจารย์สุวิทย์ช่วยเหลือ ท่านจึงทำพิธีนั่งทางในจนพบวัตถุโบราณดังกล่าว ทั้งพระโบราณและสิ่งของเครื่องใช้อายุกว่า 100 ปี เบื้อต้นได้นำมาเห็บไว้ที่วัดเพื่อให้ประชาชนได้บูชากราบไหว้ และประสานกรมศิลปากรมาตรวจสอบถึงแหล่งที่มาต่อไป
new27
เป็นที่ฮือฮาอีกครั้ง เมื่อ ครูบานั่งทางในก่อนชี้จุดขุด พบ กริชโบราณ ฝังจริง โดยก่อนหน้านี้ พระครูบาสุวิทย์ ชินนวะโร พระลูกวัดป่าโสรโย ได้นั่งทางในพบพระพุทธรูปและวัตถุโบราณจำนวนมาก ต่อมาชายชาวเยอรมันและภรรยาสาวไทย ได้นิมนต์ให้มาบ้านของตนที่ บ้านเลขที่ 107 หมู่ 2 บ้านดอนหมากพริก ต.แคนเหนือ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น หลังพบเห็นดวงไฟประหลาดตกลงมาด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของบ้าน ไม่น้อยกว่า 20 ครั้ง และภรรยาเกิดอาการป่วยกล้ามเนื้ออ่อนแรงไม่ทราบสาเหตุในช่วงที่เห็นดวงไฟ พระครูบาสุวิทย์จึงจัดพิธีขอขมาเจ้ากรรมนายเวรและเจ้าที่เจ้าทางและนั่งทางในนิมิตรเห็นกริชพระฤาษีโบราณ ก่อนชี้จุดพร้อมขุดดินจนพบกริชฤาษีโบราณ ทำด้วยเนื้อทองสัมฤทธิ์สีดำ ยาว1 ฟุต มีด้าม 1 คืบ ช่วงกลางมีฤาษีโบราณแบบนั่งปางสมาธิ 2 ตน คาดอายุไม่ต่ำกว่า 200ปี สร้างความประหลาดใจให้ผู้คนจำนวนมาก
new28
บรรดาคอหวยแห่กราบไหว้ขอเลขเด็ดซาก ควายจระเข้ ของ นางพันธ์ ชาวนาผล อายุ 63 ปี ชาวบ้านพื้นที่บ้านหนองโดน ต.บุสูง อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ หลังควายออกลูกประหลาด ลำตัวคล้ายจระเข้ แต่หลังจากเกิดมาได้เพียง 1 ชม. ก็ตายกลายเป็นซาก ทำให้เหล่าคอหวย ที่ชื่นชอบของแปลก ๆ แห่ไปขอเลขเด็ดกันอย่างเนืองแน่น ซึ่งแทบทุกรายต้องทำแป้งมาโรยบนตัวก่อนใช้มือลูบคลำถูหาเลขเด็กอย่างเอาจริงเอาจัง เพราะเชื่อว่าจะให้โชคลาภ จนปศุสัตว์ต้องออกมา เตือนสัมผัส ควายจระเข้ ต้องล้างมือ/หวั่นติดโรค!! โดยนายลูกจันทร์ บ้านศรีสุข ปศุสัตว์อำเภอวังหิน เปิดเผยว่า ลูกควายตัวดังกล่าวน่าจะเกิดจากการติดเชื้อพยาธิผิวหนังขณะตั้งท้อง เมื่อคลอดออกมาจึงเป็นโรคคล้ายสะเก็ดเงิน พบไม่บ่อยนัก เบื้องต้นได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ไปให้ความรู้เกี่ยวกับซากสัตว์ดังกล่าวแล้ว
new29
ห่ขอเลขเด็ดกล้วยประหลาด 2ปลีเครือเดียวร่างทรงเผยให้โชค ที่บริเวณหมู่ 9 ต.เชียงพิณ อ.เมือง จ.อุดรธานี ทั้งนี้ น.ส.ประภาพร กำลังหาญ อายุ 24 ปี ผู้พบเห็นปลีกล้วยคนแรกเผย ไม่เคยเห็นปลีกล้วยลักษณะนี้ เนื่องจากกล้วยพันธุ์ดังกล่าวเป็นกล้วยพันธุ์พะโล ซึ่งได้ยินมาว่าจะออกแต่ลูก ไม่มีปลี นอกจากนี้หลังพบปลีกล้วยประหลาด พ่อของตนยังฝันเห็นผู้หญิงมารำอยู่หน้ากระท่อมพร้อมให้โชคเป็นเลขเด็ด โดยร่างทรงคนหนึ่งได้บอกว่าต้นกล้วยจะให้โชคลาภ 3 งวด โดยงวดแรกวันที่ 1 ก.ย. มีคนถูกเลข 94 งวดที่ 2 วันที่ 16 ก.ย. พ่อของตนฝันเห็นเลข 48 ส่วนงวดที่ 3 ที่กำลังจะมาถึงวันที่ 1 ต.ค. ชาวบ้านได้พากันตีเลขไปต่างๆนาๆ ทั้ง 28-29-98-498 โดยยังมีผู้คนทะยอยเดินทางมาดูปลีกล้วย 2 ปลีพร้อมจุดธูปกราบไหว้ขอเลขเด็ดไม่ขาดสาย..
new30
คอหวยเชียงใหม่ไม่พลาด แห่ซื้อเลขเด็ดคึกคัก! โดยบรรยากาศการซื้อ-ขายหวยในเมืองเชียงใหม่ มีประชาชนออกมาซื้อหวยกันอย่างไม่ขาดสาย ซึ่งเลขเด็ดของอดีตรัฐมนตรี ปรีดา พัฒนถาบุตร ที่ทุกคนรอคอยนั้น มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากหลายท้องที่ รวมถึงสำนักงาน อก.ภาค 5 ต่างก็ออกมาหาซื้อเลข 7 หลักสิบกัน โดยเน้น 79 นอกจากนี้ยังมีเลข 99 และ 59 ซึ่งเป็นเลขป้ายทะเบียนรถของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตรัฐมนตรี ที่เดินทางมาทำบุญเสริมดวงเมื่อหลายวันก่อนอีกด้วย..
new31

ข่าวที่มา : dailynews

“ประวิตร” เล่าประสบการณ์ชีวิต หลังถูกคสช.คุม

อดีตนักข่าวดัง “ประวิตร โรจนพฤกษ์” เล่าประสบการณ์ในที่คุม คสช. ไม่ให้เห็นเดือน เห็นตะวัน
นายประวิตร โรจนพฤกษ์ อดีตนักข่าวเครือเนชั่นที่ถูกเจ้าหน้าที่ทหาร คสช.ควบคุมตัว ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊คบอกเล่าประสบการณ์ในที่คุมขัง ผ่านเฟซบุ๊ค Pravit Rojanaphruk โดยระบุว่า ตอนถูกปิดตาพาไปคุมตัวสองคืน ห้อง 4×4 เมตรที่ขังนั้นหน้าต่างไม้ติดลูกกรงเหล็กปิดหมด แม้มีไฟนีออนเปิดปิดได้ไม่เห็นเดือนเห็นตะวันหลังจากเขาให้ลืมตา แทบไม่มีช่องระบายอากาศ
หลัง 20 ชม.แรกมีพันโทมาคุยด้วยและถามว่าจะให้ช่วยจัดอะไรให้ไหม สองสิ่งแรกที่ตนขอคือแสงอาทิตย์และอากาศหายใจ แต่ตนไม่เคยได้เห็นฟ้าหรือแสงแดดตลอด 2 คืน 2 วันที่ถูกขังในห้องที่ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน
new41
ในระหว่างที่ถูกขังเดี่ยวในห้องเล็กๆขนาด 4 คูณ 4 เมตรที่หน้าต่างไม้ทั้งสามปิดสนิทพร้อมลูกกรงเหล็กและมี CCTV จ้องตลอดเวลาโดยไม่ทราบว่าอยู่ที่ใด ผู้คุมที่ใส่หน้ากากปิดจมูกและปาก 2 คนจะนำอาหารเช้ากลางวันเย็นมาส่ง
มีครั้งหนึ่งตนเหลือบเห็นบริเวณห้องโถงทางเดินข้างนอกตอนเขาเปิดประตูช่วงเสี้ยววินาทีสั้นๆ และเห็นธงชาติปักจากผนังนอกตึกแบบ 45 องศา มันเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ตนรู้สึกละอายใจที่เห็นธงชาติไทยและสิ่งที่เกิดขึ้นกับตนในนามของรัฐไทย
ซึ่งก่อนพบคสช.ตนได้ฝากมือถือไว้กับเจ้าหน้าที่ยูเอ็น นั่นนำมาซึ่งการถกเถียงอย่างตึงเครียดกับทหาร คสช. ที่ต้องการตรวจมือถือเพื่อดูว่าหนึ่งข้อความในไลน์เกี่ยวกับการแต่งตั้งเลขา สมช.มาจากตนจริงหรือไม่ ซึ่งตนปฎิเสธว่าไม่เกี่ยว
พวกเขาถามว่าทำไมตนเอามือถือไปฝากกับเจ้าหน้าที่สหประชาชาติ ซึ่งตนได้บอกว่าเพราะ ม.44 ไม่มีอำนาจเหนือยูเอ็น คำตอบทำให้พวกเขายิ่งไม่พอใจ ตนบอกยินดีเอาโทรศัพท์มาให้ดูแต่ขอโทรเรียกทนายพร้อมเจ้าหน้าที่ยูเอ็น พวกเขาเถียงกันเองสักพักสุดท้ายก็ไม่ทำอะไรต่อเรื่องนี้ คาดว่า คสช. คงไม่อยากลากยูเอ็นเข้ามาเกี่ยวข้อง
ที่มา Pravit Rojanaphruk
ติดตามข่าวสารอื่น ๆ ที่น่าสนใจได้ที่นี่ news.mthai.com
MThai News

ข่าวที่มา : mthai

สลดคดีสะเทือนขวัญ!! แม่ทิ้งลูกสาวขวบเศษกับกิ๊กหนุ่ม ถูกทารุณทางเพศดับ-ทิ้งลูกพากิ๊กหนี

สามีไม่อยู่ พาลูกสาววัย 1 ปี 8 เดือน ไปหากิ๊กหนุ่ม เปิดห้องรีสอร์ต ทิ้งลูกไว้กับกิ๊ก ถูกกิ๊กทารุณทางเพศทางทวารหนัก แม่เด็กกลับมาพบลูกอาการไม่ดี พาส่งโรงพยาบาล เด็กเสียชีวิต
new55
สาววัย 23 ปี สามีไม่อยู่ พาลูกสาววัย 1 ปี 8 เดือน ไปหากิ๊กหนุ่ม เปิดห้องรีสอร์ต ทิ้งลูกไว้กับกิ๊ก ถูกกิ๊กทารุณทางเพศทางทวารหนัก แม่เด็กกลับมาพบลูกอาการไม่ดี พาส่งโรงพยาบาล เด็กเสียชีวิต หลังเกิดเหตุแอบพากิ๊กหนี ถูกตำรวจหนองคายตามรวบได้ทันควัน แต่ยังปากแข็งไม่ยอมรับผิด
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 30 ก.ย. พ.ต.อ.อภิศักดิ์ กรองทิพย์ ผกก.สภ.เมืองหนองคาย , พ.ต.อ.ปรีดา ดวงพุทธา พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ , พ.ต.ท.ณัฐวัฒน์ วงษ์สนิทธีรา รองผกก.(สส.) , พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ สีเสมอ สว.สส. , ร.ต.ท.กฤษณะ ธรรมจิตร พนักงานสอบสวน ร่วมกันสรุปแนวทางติดตามคดีสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นกับเด็กหญิงวัย 1 ปี 8 เดือน จนเด็กเสียชีวิต
สืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 29 ก.ย. ได้มีญาติของ ด.ญ.แอน (นามสมมติ) วัย 1 ปี 8 เดือน เข้าแจ้งความกับตำรวจว่า น้องแอน ถูกทารุณกรรมทางเพศจนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยมีแผลฉีกขาดทางทวารหนักและเสียชีวิตที่โรงพยาบาลหนองคาย ในเวลาประมาณ 03.00 น. วันที่ 30 ก.ย.
โดยสงสัยว่า นายป๊อบ หรือ นายนพรัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี อยู่หมู่ 4 ต.มีชัย อ.เมืองหนองคาย ซึ่งมีความสัมพันธ์กับ น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 23 ปี อยู่ ต.หาดคำ อ.เมืองหนองคาย แม่ของ น้องแอน เป็นผู้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จึงไปตรวจสอบ และทราบว่าทั้งนายนพรัตน์ และ น.ส.บี ได้หลบหนีออกจากพื้นที่ไปแล้ว
จนกระทั่งเวลาประมาณ 09.40 น. พ.ต.ท.ณัฐวุฒิ ได้ติดตามจับกุม น.ส.บี ได้ที่ศาลาริมทางถนนมิตรภาพหนองคาย–อุดรธานี เขต อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี และติดตามจับกุมนายนพรัตน์ ได้ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งใน ต.เชียงหวาง อ.เพ็ญ จึงคุมตัวมาสอบสวน โดยได้นำตัวทั้งสองคนตรวจดีเอ็นเอส่งพิสูจน์
พ.ต.อ.อภิศักด์ กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีสะเทือนขวัญเนื่องจากผู้ถูกกระทำเป็นเด็กหญิง โดยแพทย์ระบุสาเหตุการเสียชีวิตจากการติดเชื้อในช่องท้อง และได้นำศพไปตรวจพิสูจน์ที่ จ.ขอนแก่น ซึ่งรอขั้นตอนการสอบสวน แต่เบื้องต้นนายนพรัตน์ ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ ต้องรอผลการพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ร่วมด้วย
พ.ต.อ.ปรีดา ดวงพุทธา กล่าวว่า หลังจากรับแจ้งเจ้าหน้าที่ได้ออกตรวจที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นสถานที่ที่ น.ส.บี มาเปิดห้องเช่าตั้งแต่วันที่ 14 ก.ย. ที่ผ่านมา เพื่อมาพบกับนายนพรัตน์ ซึ่งทั้งคู่มีความสัมพันธ์กัน โดยพาน้องแอนมาพักด้วย ขณะที่พ่อของน้องแอนถูกเรียกเข้าประจำการเป็นทหารกองเกินที่ศูนย์ฝึกทหารใหม่สัตหีบ จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบคราบเลือดบนฟูกที่นอน จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ขณะเกิดเหตุนายนพรัตน์ ใช้ให้ น.ส.บี ออกไปซื้อของข้างนอก หลังจากนั้นนายนพรัตน์ได้พาน้องแอนเข้าไปในห้องน้ำ แล้วเปิดก๊อกน้ำเสียงดังเป็นเวลานาน จากนั้นก็พาน้องแอนออกมาจากห้องน้ำ ในสภาพที่เด็กไม่ใส่เสื้อผ้า แล้วพาไปนอนบนที่นอน เมื่อ น.ส.บี กลับมาพบว่าลูกสาวมีอาการตัวแข็งและหมดสติ จึงรีบนำส่งโรงพยาบาล ช่วงเวลาประมาณ 02.00 น. วันที่ 29 ก.ย.
จากนั้น น.ส.บี ได้ย้อนกลับไปหานายนพรัตน์ แล้วพากันหลบหนี จนกระทั่งถูกติดตามจับกุมในที่สุด แต่ทั้งสองคนยังให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนรู้เห็น อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพยานแวดล้อมน่าเชื่อว่า นายนพรัตน์ จะกระทำทารุณทางเพศเด็กหลายครั้ง เนื่องจากเมื่อเด็กเห็นนายนพรัตน์ มีอาการหวาดกลัว มักจะร้องไห้เสียงดัง ไม่อยากเข้าใกล้ ประกอบกับพบการติดเชื้อในช่องท้อง จึงเป็นเหตุเชื่อได้ว่าอาจจะมีการกระทำชำเราเด็กสักระยะหนึ่ง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหานายนพรัตน์ กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี จนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ส่วน น.ส.บี ยังไม่ได้แจ้งข้อหา ต้องสอบสวนเพิ่มเติมก่อน
new56new57

ข่าวที่มา : khaosod

เทรนด์อัลไล? มาได้ยังไง?? วัยรุ่นฝรั่งถ่ายเซลฟี่พร้อมกับเลีย “โดนัท” เกลื่อน IG

เทรนด์ใหม่สุดแหวกแนว เมื่อวัยรุ่นฝรั่งแห่โพสต์ถ่ายรูปเซลฟี่พร้อม “เลียโดนัท” ไปด้วยบน Instagram เต็มไปหมด
1527707_395740283949378_1688539045_n
เรื่องของเรื่อง มีอยู่ว่า Ariana Grande นักแสดง นักร้อง นักแต่งเพลงชาวอเมริกันเชื้อสายอิตาลี ได้ออกอาการเกรียนแตกที่ร้านโดนัท พร้อมทั้งตะโกนลั่นร้านว่าเธอเกลียดอาหารอเมริกัน รวมถึงการทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมด้วยการใช้ลิ้นเลียโดนัทที่วางอยู่บนชั้นวางโดนัทในร้าน

แต่ล่าสุด ตัว Ariana เองก็ได้ออกมาขอโทษกับสิ่งที่เธอได้ทำลงไป พร้อมกับจัดแถลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นว่าเป็นความผิดพลาดของการสื่อสาร เพราะความจริงแล้ว เธอไม่ได้เกลียดอเมริกา แต่อาหารอเมริกันเป็นสาเหตุนึงเลยที่ทำให้คนเป็นโรคอ้วน ซึ่งเธอเอง ไม่อยากที่จะเป็นแบบนั้น
Screen Shot 2558-07-15 at 8.36.08 PM
หลังจากนั้น ก็มี Instagram เจ้าปัญหาที่ใช้ชื่อ Instagram account ว่า@lick_donuts_with_ari ออกมาเชิญชวนวัยรุ่นทั้งหลายให้ออกมาให้กำลังใจ Ariana Grande ด้วยการถ่ายรูปเซลฟี่พร้อมทั้งเลียโดนัทไปด้วย แล้วอย่าลืมใส่ hashtag#LickDonutsWithAri ด้วยล่ะ

Screen Shot 2558-07-15 at 9.03.21 PM
ซึ่งตอนนี้ มันเลยเป็นเทรนด์ใหม่ที่ชาวเน็ตวัยรุ่นออกมาให้กำลังใจ Ariana Grande พร้อมเลียโดนัทเต็ม Instagram ไปหมด ดูจากรูปเหล่านี้ได้

Screen Shot 2558-07-15 at 9.10.03 PMScreen Shot 2558-07-15 at 9.09.44 PMScreen Shot 2558-07-15 at 9.09.29 PMScreen Shot 2558-07-15 at 9.09.10 PM
ถึงแม้ว่าจะมีกลุ่มวัยรุ่นจำนวนไม่น้อยเลย ที่ออกมาให้กำลังใจ Ariana Grande แต่ก็ยังมีกลุ่มคนที่ยังคงไม่พอใจกับสิ่งที่เธอทำลงไปอยู่เหมือนกัน

คิดว่าเทรนด์นี้คงจะฮิตอีกไม่นาน แล้วเดี๋ยวก็คงซาลงไป

ทำไมต้องมีเดือนแปดสองหน

เมื่อสองพันห้าร้อยกว่าปีมาแล้ว พุทธองค์ได้ค้นพบสัจธรรมแห่งชีวิตด้วยการตรัสรู้ และก่อตั้งศาสนาใหม่ที่เน้นคำสอนและการปฏิบัติตนในแนวทางที่เห็นจริงอย่างมีสาระ โดยไม่ต้องลุ่มหลงงมงายอยู่กับโชคลาภและดวงชะตาราศี ในครั้งนั้นพุทธบัญญัติข้อหนึ่งที่มอบให้กับเหล่าพระสงฆ์ก็คือ “การเข้าพรรษา” โดยเริ่มต้นในวันถัดจาก ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 หรือ แรม 1 ค่ำ เดือน 8 ซึ่งตรงกับต้นฤดูฝน 

เพื่อให้บรรดาสงฆ์ได้อยู่ประจำสถานที่เป็นเวลา 3 เดือนของปฏิทินจันทรคติ เพื่อใช้เวลาช่วงนี้ศึกษาทบทวนเนื้อหาของธรรมะ และไม่ไปรบกวนชาวบ้านที่กำลังเริ่มต้นทำการเพาะปลูก อีกทั้งหลีกเลี่ยงการเหยียบย่ำพืชพรรณและสัตว์เล็กๆที่อยู่ตามพื้นดิน


จะเห็นได้ว่าพุทธบัญญัตินี้ ผูกมัดเงื่อนไขไว้ 2 ข้อ คือ แรม 1 ค่ำ เดือน 8 และต้นฤดูฝน ตอนเริ่มต้นใหม่ๆในปีแรกๆก็ดำเนินไปได้ด้วยดี ครั้นย่างเข้าปีที่สี่ วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ร่นเข้าไปอยู่ในฤดูแล้ง (ราวๆเดือนเมษายน) แทนที่จะเป็นฤดูฝน 

เป็นเหตุให้วันออกพรรษาร่นเข้ามาเป็นต้นฤดูฝน ผิดวัตถุประสงค์ของพุทธบัญญัติ จึงต้องมีการปรับชดเชยระหว่าง ปฏิทิน “จันทรคติ” กับ ปฏิทิน “สุริยะคติ” เนื่องจากรอบปีของดวงจันทร์ (Lunar month) เร็วกว่ารอบปีของดวงอาทิตย์ (Solar month) ประมาณปีละ 11 วัน ประกอบกับฤดูกาลต่างๆที่เกิดบนโลกมีต้นเหตุมาจากอิทธิพลของดวงอาทิตย์ที่ทำมุมตกกระทบกับพื้นผิวโลกในองศาที่แตกต่างกัน


ดังนั้นทุกๆ 2-3 ปี จึงต้องเพิ่มเดือนจันทรคติเข้าไปอีก 1 เดือน โดยให้เพิ่มที่เดือน 8 มีสองครั้ง เรียกว่าเดือน “แปดหน้าและแปดหลัง” หรือ “แปดสองหน” และให้ไปเริ่มเข้าพรรษาในวันแรม 1 ค่ำ ของเดือนแปดหลัง 

การชดเชยเช่นนี้ช่วยให้การเข้าพรรษาอยู่ในช่วงเวลาของต้นฤดูฝนตรงตามพุทธบัญญัติ สูตรการปรับระหว่างปฏิทินสองอย่างนี้ถูกคิดค้นโดยนักดาราศาสตร์ชาวกรีก ชื่อ เมตั้น แห่งกรุงเอเธนส์ (Meton of Athens) เมื่อ 440 ปี ก่อนคริสตกาล ภาษาวิชาการทางดาราศาสตร์เรียกว่า Intercalation หรือ Metonic Cycle กำหนดให้เพิ่มเดือนจันทรคติ 7 ครั้ง ในรอบ 19 ปี โดยปฏิทินพุทธของไทยใช้วิธีพิจารณาที่วันออกพรรษา หากวันดังกล่าวร่นขึ้นมาอยู่ที่ต้นเดือนตุลาคมและทำท่าจะร่นเข้าไปในเดือนกันยายนของปีต่อไป ก็กำหนดให้ปีที่จะถึงมี 8 สองหน เรียกว่า “อธิกมาส”

ล่าตัวคนเมาแล้วขับรถชนนักท่องเที่ยว แถมข่มขู่พลเมืองดีที่ถ่ายรูปก่อนชิ่งหนี


ชนแล้วหนี อย่าคิดว่าจะรอดนะครับ ผมส่งเรื่องให้ตำรวจลากเขาคุกมาหลายรายแล้ว
ทะเบียน 3กภ1751 กรุงเทพมหานคร ขับรถชนฝรั่งแล้วหนี เหตุเกิดที่เขาตาโล พัทยา คนขับมีอาการมึนเมา โชคยังดีมีพยานเห็นเหตุการณ์และถ่ายรูปทะเบียนรถมันไว้ได้ก่อนมันจะขับหนี ตัวคนขับข่มขู่น้องผู้หญิงที่เป็นพลเมืองดีที่ถ่ายรูปรถมันไว้ด้วย อย่าคิดว่าจะรอด
ข้อมูลเพิ่มเติม
Toyota Altis 1600cc สีเทา จดทะเบียนปี 2553 ทะเบียน 3กภ1751 กรุงเทพมหานคร เจ้าของรถชื่อ นายวัชรพงษ์ ขันติวงค์ ภูมิลำเนาเป็นคนจังหวัดศรีสะเกษ

สั่งสอบ! ตร.อ้าง “พ่อใหญ่” รุมตื้บแท็กซี่เข้าไอซียู

สั่งสอบ! ตร.อ้าง “พ่อใหญ่” รุมตื้บแท็กซี่เข้าไอซียู

สั่งสอบ! ตร.อ้าง “พ่อใหญ่” รุมตื้บแท็กซี่เข้าไอซียู
นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com
ผบ.ตร.สั่งเอาผิดทางวินัย ส.ต.ต.อ้าง "พ่อใหญ่" รุมทำร้ายร่างกายโชเฟอร์ขับแท็กซี่ สั่งดำเนินคดีตามกฏหมาย

วันที่ 29 ก.ย. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์เมื่อช่วง 02.00 น. ของวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่เกิดเหตุโชเฟอร์รถแท็กซี่ถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส พร้อมทั้งยิงปืนขึ้นฟ้าข่มขู่อีกหลายนัด บริเวณปากทางเข้าอาร์ซีเอ ซึ่งต่อมาคนเจ็บถูกนำตัวเข้ารักษาในห้องไอซียูโรงพยาบาลราชวิถี
โดยพฤติการณ์ของกลุ่มวัยรุ่นคู่กรณี ได้ขับรถตู้ยี่ห้อโฟล์คสวาเกน คาราเวล สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ฮข-8514 กรุงเทพมหานคร มาจอดบริเวณปากทางเข้าอาร์ซีเอ มีวัยรุ่น 3 คน เป็นหญิง 2 และชาย 1 ขณะกำลังซื้อน้ำกันอยู่ได้เข้าไปผลักอกแล้วตะคอกใส่โชเฟอร์แท็กซี่
จากนั้นเพื่อนในกลุ่มที่เหลือกรูลงมาลากโชเฟอร์แท็กซี่คนดังกล่าวไปรุมทำร้ายจนสะบักสะบอมจนสลบไป จากนั้นชายวัยรุ่นได้ชักอาวุธปืนขึ้นมาจ่อหัวคนเจ็บ แต่เพื่อนเข้ามาห้ามไว้เลยยิงปืนขู่ขึ้นฟ้าไป 7 นัด ทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วยเหลือ 
ขณะที่พยานในที่เกิดเหตุให้การว่า ได้ยินกลุ่มวัยรุ่นพูดด้วยว่า "ไปเรียกพวกมาเลย กูไม่กลัว พ่อกูใหญ่ มีปัญหาเจอกูที่สืบ 4″ ส่วนหญิงสาวในกลุ่มดังกล่าว ยังหันมาบอกเพื่อนคนขับรถแท็กซี่ว่า "ตำรวจที่ไหน ก็ทำอะไรเขาไม่ได้หรอก"
ทั้งนี้ หลังเหตุการณ์ดังกล่าว ตำรวจ สน.มักกะสัน ตามจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาได้ จนทราบว่าผู้ก่อเหตุ คือ ส.ต.ต.บุลเสฏฐ์ วุฒิวิญญูชน สังกัดสภ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ซึ่งถูกย้ายมาช่วยราชการที่กองบังคับการควบคุมฝูงชน กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7 ส่วนอีกคนคือ นายชุติรัตน์ มีนามสกุล ตรงกับนายทหารยศ "พลเอก" คนหนึ่งในกองบัญชาการกองทัพไทย
อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีนี้ว่า ต้องให้ผู้เสียหายไปดำเนินการแจ้งความฟ้องร้อง ซึ่งหากเป็นเรื่องจริงก็พร้อมที่จะดำเนินคดีให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยยืนยันว่าจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาแม้ว่าบุคคลนั้นจะอ้างว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ใหญ่ระดับสูงก็ตาม

ภาพเสียดสีสังคมไทย ในแบบไทยแลนด์โอนลี่ อย่างโดนอ่ะ!!

วันๆนึงมีเรื่องราวเกิดขึ้นในสังคมไทยมากมาย และคนไทยคงจะทราบกันดีว่าการแก้ปัญหาของคนไทยนั้นมีความเป็นเอกลักษณ์ที่เฉพาะตัวแค่ไหน ไม่เชื่อก็ลองดูภาพเสียดสีสังคมไทยที่เราเอามาให้คุณดูสิ บอกเลยมันโดน!!
บอกเลยว่าถ้าคุณได้เห็นภาพเหล่านี้แล้วจะต้องโดนใจแน่ๆ กับภาพเสียดสีสังคมไทยที่ตรงใจสุดๆ และสิ่งเหล่านี้จะมีแค่ไทยแลนด์โอนลี่เท่านั้น!!
ภาพเสียดสีสังคมไทย ในแบบไทยแลนด์โอนลี่ อย่างโดนอ่ะ!!
ภาพเสียดสีสังคมไทย ในแบบไทยแลนด์โอนลี่ อย่างโดนอ่ะ!!
ภาพเสียดสีสังคมไทย ในแบบไทยแลนด์โอนลี่ อย่างโดนอ่ะ!!
ภาพเสียดสีสังคมไทย ในแบบไทยแลนด์โอนลี่ อย่างโดนอ่ะ!!
ภาพเสียดสีสังคมไทย ในแบบไทยแลนด์โอนลี่ อย่างโดนอ่ะ!!
ภาพเสียดสีสังคมไทย ในแบบไทยแลนด์โอนลี่ อย่างโดนอ่ะ!!
ภาพเสียดสีสังคมไทย ในแบบไทยแลนด์โอนลี่ อย่างโดนอ่ะ!!
ภาพเสียดสีสังคมไทย ในแบบไทยแลนด์โอนลี่ อย่างโดนอ่ะ!!
ภาพเสียดสีสังคมไทย ในแบบไทยแลนด์โอนลี่ อย่างโดนอ่ะ!!
ภาพเสียดสีสังคมไทย ในแบบไทยแลนด์โอนลี่ อย่างโดนอ่ะ!!
ภาพเสียดสีสังคมไทย ในแบบไทยแลนด์โอนลี่ อย่างโดนอ่ะ!!
ภาพเสียดสีสังคมไทย ในแบบไทยแลนด์โอนลี่ อย่างโดนอ่ะ!!
ภาพเสียดสีสังคมไทย ในแบบไทยแลนด์โอนลี่ อย่างโดนอ่ะ!!
ภาพเสียดสีสังคมไทย ในแบบไทยแลนด์โอนลี่ อย่างโดนอ่ะ!!
ภาพเสียดสีสังคมไทย ในแบบไทยแลนด์โอนลี่ อย่างโดนอ่ะ!!
ภาพเสียดสีสังคมไทย ในแบบไทยแลนด์โอนลี่ อย่างโดนอ่ะ!!
ภาพเสียดสีสังคมไทย ในแบบไทยแลนด์โอนลี่ อย่างโดนอ่ะ!!
เป็นยังไงบ้างสำหรับภาพเสียดสีสังคมไทยที่เราเอามาฝากกัน เรียกได้ว่าแทงใจดำไปตามๆกัน อ่านแล้วทำให้ฉุกคิดอะไรได้หลายอย่างเลยล่ะ คุณว่าจริงไหม?
ขอขอบคุณภาพจาก เฟซบุ๊ก พุทธยาศาสตร์
loading...