This is default featured slide 1 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.This theme is Bloggerized by Lasantha Bandara - Premiumbloggertemplates.com.

This is default featured slide 2 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.This theme is Bloggerized by Lasantha Bandara - Premiumbloggertemplates.com.

This is default featured slide 3 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.This theme is Bloggerized by Lasantha Bandara - Premiumbloggertemplates.com.

This is default featured slide 4 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.This theme is Bloggerized by Lasantha Bandara - Premiumbloggertemplates.com.

This is default featured slide 5 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.This theme is Bloggerized by Lasantha Bandara - Premiumbloggertemplates.com.

loading...

กรณีหนุ่มพลทหารใหม่ ป.โท เสียชีวิต

หลังจากรายการสปริงรีพอร์ต ได้นำเสนอเรื่องราวเหตุการณ์ตอนซ้อมพลทหารใหม่ ซึ่งออกอากาศเมื่อวันอังคารที่ ๒๗ เดือนตุลาคม ๒๕๕๘ เวลา ๒๑.๑๐ น.เป็นต้นไป ทางช่องสปริงนิวส์ ไปแล้วนั้น
       สามารถกดชมโปรโมทไตเติ้ลรายการสปริงรีพอร์ต ตอน ซ้อมทรมานพลทหารใหม่ ได้จากลิงก์https://www.facebook.com/577088152399483/videos/861365303971765/ นี้ และสามารถชมเทปเต็มของรายการสปริงรีพอร์ต ตอน ซ้อมทรมานพลทหารใหม่ ได้จากลิงก์http://www.springnews.co.th/program/documentary/springreport/249093 นี้ ซึ่งยังสามารถติดตามชมรีรันในวันเสาร์ที่ ๓๑ ตุลาคมนี้ เวลา ๒๐.๐๐ - ๒๑.๐๐ น. และวันอาทิตย์ที่ ๑ พฤศจิกายนนี้ เวลา ๑๖.๐๐ - ๑๗.๐๐ น. ทางสถานีข่าวสปริงนิวส์ ดิจิตอลทีวีช่อง ๑๙ รวมถึงสามารถทราบข้อเท็จจริงรายละเอียดได้ปรากฎในรายการคุยกับแพะ ตอน ทารุณกรรมในค่ายทหาร ออกอากาศเมื่อวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ระหว่างช่วงเวลา ๒๑.๓๐ - ๒๒.๓๐ น. ตามลิงก์http://youtu.be/PuW4RZShmg0 นี้

       กระทู้นี้ตั้งขึ้นมาเพื่อต้องการนำเสนอและแชร์ข้อเท็จจริงความรุนแรงในค่ายทหารอีกด้านหนึ่งที่ถูกปกปิดซ่อนเล้นอยู่ ให้เกิดการแก้ไขเปลี่ยนแปลง และป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำขึ้นอีก เพราะหากตราบใดที่ประชาชนยังไม่รู้สิทธิในเรื่องนี้ การละเมิดสิทธิมนุษยชนในลักษณะนี้ก็ยังคงที่จะเกิดขึ้นได้อีกเสมอ
       โดยวัตถุประสงค์ของการขอนำเสนอไม่ได้ต้องการโจมตีหรือทำให้หน่วยงานของรัฐเสื่อมเสียงชื่อเสียงแต่ประการใด แต่เพื่อให้ประชาชนในสังคมไทยได้รับทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และเป็นกรณีตัวอย่างให้กับผู้ที่ถูกละเมิด หรือไม่ได้รับความเป็นธรรมกล้าที่จะลุกขึ้นมาต่อสู้เรียกร้องความยุติธรรมให้กับตนเองต่อไป
       สิ่งสำคัญที่สุด คือ ต้องการให้สังคมมีส่วนรู้เห็น เพื่อมีส่วนร่วมในการป้องกันเหตุการณ์ไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำรอยได้อีก โดยนำเสนอข่าวเพื่อสะท้อนให้กับสังคมได้ทราบถึงเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ประชาชนในสังคมช่วยกันเป็นหูเป็นตา เพราะตราบใดที่สังคม โดยเฉพาะบุคคลที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นทหารกองประจำการ ผลัดต่างๆ ของแต่ละประจำปียังไม่ทราบสิทธิของตน ที่ทางต้นสังกัด คือ กองทัพบก มีคำสั่งออกเป็นหนังสือระบุชัดเจนเรื่องการฝึกทหารใหม่ แต่ละรุ่นปีแต่ละผลัด ระบุไว้ชัดเจนว่า ห้ามปรับปรุงทหารใหม่จนเกินกว่าเหตุ ห้ามถูกเนื้อต้องตัวทหาร ห้ามทำร้ายร่างกาย ห้ามถือไม้เรียวโดยเด็ดขาด เน้นกำลังให้ฝึกตามระเบียบของหน่วยเหนืออย่างเคร่งครัด หากฝ่าฝืนจะลงโทษสถานหนัก เพราะเป็นการฝ่าฝืนนโยบายของผู้บังคับบัญชา รวมทั้งให้ดูแลทหารใหม่ให้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้มาโดยตลอด
       แต่ท้ายสุดก็เกิดเหตุขึ้นกับพลทหารวิเชียร เผือกสมแม้จะมีคำสั่งเข้มงวดเรื่องการฝึกทหารใหม่ข้างต้นแล้วก็ตาม แต่ก็ยังเกิดการลงโทษของครูฝึกทหารใหม่ที่ซ้อมทรมานพลทหารเกณฑ์จนเสียชีวิตเกิดขึ้น
       และบัดนี้ก็เป็นเวลา ๔ ปีกว่าแล้วที่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตยังคงต้องต่อสู้เรียกร้องความยุติธรรมให้กับคนในครอบครัวที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับลำแข้งของครูฝึกทหารร่วม ๑๐ นาย ในกรณีที่พลทหารวิเชียร เผือกสม ทหารเกณฑ์ สังกัดกองพลพัฒนาที่ ๔ ค่ายนราธิวาสราชนครินทร์ อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส ผู้มีศักดิ์เป็นน้าชาย ซึ่งถูกรุมทำร้ายร่างกาย โดยครูฝึกทหารใหม่จนเสียชีวิตเมื่อวันที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๕๔ 
      เรื่องราวเหล่านี้ยังคงเด่นชัดอยู่ในความทรงจำของคนในครอบครัวได้เป็นอย่างดี หน้ำซ้ำครูฝึกทหารใหม่ที่กระทำต่อพลทหารวิเชียร เผือกสม ยังคงลอยนวลไม่ถูกลงโทษทางอาญาตามความผิดที่ได้กระทำ บางนายยังคงเป็นครูฝึกทหารใหม่ บางนายปลดประจำการแล้ว และบางนายได้เลื่อนชั้นยศที่สูงขึ้น คือร้อยโท ซึ่งมีพ่อเป็นพลตรี  **เพราะยังต้องรอกระบวนการยุติธรรมตามขั้นตอนของกฎหมายไทย**
       ทั้งนี้จึงตั้งกระทู้ขึ้นมาก็เพื่อปกป้องสิทธิให้กับคนอื่น โดยไม่ต้องการให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับใครอีก เพราะการลงโทษโดยทำร้ายร่างกายด้วยวิธีการทารุณโหดร้าย นอกจากจะเป็นความผิดทั้งทางอาญาและทางแพ่งแล้ว ยังเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง ขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ๒๕๔๐ มาตรา ๓๒ ว่าด้วยสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกายของบุคคล  และละเมิดอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการปฏิบัติ หรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรีที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีและมีพันธกรณีให้ปฏิบัติตามอนุสัญญาฯดังกล่าวด้วย

   ข้อเท็จจริงตามเอกสารหนังสือรายงานผลการสอบสวนข้อเท็จจริงกองทัพภาคที่ ๔ ที่ กห ๐๔๔๘/๒๔๖๓ ฉบับลงวันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๕๔ มีดังนี้
       พลทหารวิเชียร เผือกสม ได้ลาสิขาบทมาเมื่อวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๔ และได้สมัครเข้ารับราชการทหารกองประจำการ ผลัดที่ ๑/๕๔ เมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๔ แต่ในวันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๕๔ พลทหารวิเชียร เผือกสม กลับถูกครูฝึกทหารลงโทษรุมทำร้ายอย่างโหดเหี้ยมทารุณจนได้รับบาดเจ็บสาหัส สาเหตุเพราะหลบหนีจากหน่วยฝึก ๒ ครั้ง ครั้งแรกเมื่อวันที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๕๔ และได้ตัวกลับมาในวันเดียวกัน ครั้งที่ ๒ เมื่อ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๕๔ ทางหน่วยฝึกได้ไปรับตัวกลับหน่วยเมื่อ ๑ มิถุนายน ๒๕๕๔ ก่อนเที่ยง ร้อยตรีให้การว่าได้ตบหน้าพลทหารวิเชียรฯ ๒ ครั้ง เพื่อเตือนสติให้สำนึกที่หลบหนี ให้กินพริกสดจำนวน ๓-๔ เม็ด เพื่อทำโทษและให้กินข้าวเปล่าจำนวน ๑ จาน ประมาณ ๑๒.๔๐ น. ได้สั่งให้พลทหารผู้ช่วยครูฝึก ๒ นาย นำพลทหารวิเชียรฯ ไปบริเวณหลังหน่วยฝึกหน้าห้องน้ำเพื่อปรับปรุงวินัย โดยให้ออกกำลังท่ากายบริหาร เช่น ท่ากระโดดกบ แองการู ท่ายุบสะโพก ฯลฯ โดยในครั้งแรกให้สวมใส่ชุดทหารใหม่และต่อมาให้ถอดเสื้อผ้าออกคงเหลือกางเกงในเพียงตัวเดียว โดยมีร้อยตรีนั่งกำกับอยู่ด้วย จากนั้นได้พาไปพบร้อยโทผู้ฝึกที่หน้าหน่วยฝึก ร้อยโทผู้ฝึกได้มีการว่ากล่าวพลทหารวิเชียรฯ และได้สั่งให้พาไปด้านหลังหน่วยฝึกเพื่อปรับปรุงวินัยต่อ มีผู้ให้การหลายรายยืนยันว่า ได้เห็นพลทหารผู้ช่วยครูจับขาพลวิเชียรฯ คนละข้างลากไปกับพื้นปูนบริเวณที่รวมพลหน้าหน่วยฝึกประมาณ ๒-๓ เมตร พลทหารวิเชียรฯ ได้ร้องด้วยความเจ็บปวด
       ต่อจากนั้นได้พาไปปรับปรุงวินัยที่เดิม ซึ่งขณะนั้นร้อยตรีอีกนายได้เข้ามาพบเห็นพลทหารผู้ช่วยครูได้รุมกันใช้เท้าเตะกระทืบที่ขาและลำตัวของพลทหารวิเชียรฯ ซึ่งขณะนั้นร้อยตรีที่ถูกกล่าวหาได้กำกับอยู่ โดยสั่งให้ตัดกำลังขาอย่าไปทำอะไรส่วนบน ต่อจากนั้นได้ใช้เกลือทาบริเวณแผลและใช้เท้าเหยียบขึ้นไปที่หน้าอก หลังจากใช้เวลาซ่อมประมาณ ๒ ชั่วโมง ได้นำตัวพลทหารวิเชียรฯ ไปอาบน้ำและพาไปที่ห้องพยาบาล เพื่อทายารอยแผลขีดข่วนและให้นอนพักบนเตียงผ้าใบในห้องพยาบาล ขณะนั้นมีครูทหารใหม่และผู้ช่วยครูหลายนาย ซึ่งที่ห้องพยาบาลนั้นจ่าสิบเอกให้การว่า เห็นพลวิเชียรวิเชียรฯ ถูกสิบเอก ๓ นาย และสิบโท ๒ นายสลับกันรุมเตะด้วยหัวรองเท้าคอมแบค โดยมีร้อยตรีผู้ช่วยผู้ฝึก นั่งอยู่ที่เตียงพยาบาล
       เวลาประมาณ ๑๗.๔๕ น. สิบเอกได้เรียกรวมพลทั้งหมดเพื่อไปรับประทานอาหารเย็น โดยสิบเอกอีกนายได้เรียกทหารใหม่ประมาณ ๕-๖ นาย ให้แบกพลทหารวิเชียรฯจากห้องพยาบาลไปยังโรงเลี้ยง โดยใช้ผ้าขาวห่อตัวเหลือแต่ใบหน้าพร้อมมัดตราสังข์ในลักษณะเหมือนศพ พร้อมตั้งขบวนแห่และพูดไว้อาลัยเหมือนกับการแห่ศพ และที่โรงเลี้ยงมีพยานยืนยันว่า เห็นพลทหารวิเชียรฯ ถูกสั่งให้นั่งกินข้าวบนก้อนน้ำแข็งประมาณ ๑๐ นาที โดยให้นั่งท่าขัดสมาธิ ก้นสัมผัสผิวน้ำแข็งประมาณ ๑ ใน ๓ และสวมกางเกงในตัวเดียว และร้อยโทผู้ฝึกได้เดินมาที่พลทหารวิเชียรฯ ร้อยตรีผู้ช่วยครูฝึกได้บอกให้เอาน้ำแข็งประคบ เพื่อบาดแผลจะได้หายเร็วขึ้นและได้ให้รับประทานกระเทียมประมาณ ๓–๔ กลีบ ต่อมาสิบเอกได้นำกำลังพลชุดเดิมแบกพลทหารวิเชียรฯ กลับมาวางด้านหน้าหน่วยฝึกและมีก้อนน้ำแข็งวางทับบนหน้าอก ที่หน้าหน่วยฝึก
       เวลาประมาณ ๑๘.๔๕ น. สิบเอกได้สั่งให้พลทหารวิเชียรฯ หมอบ-ลุก เมื่อเห็นว่า ทำช้าไม่เป็นที่พอใจจึงได้ไม้ไผ่ขนาดเท่านิ้วชี้ตีที่บริเวณลำตัว แผ่นหลัง ก้น ขาจนถึงปลายเท้า และใช้เท้าเตะบริเวณชายโครง หน้าอก และกระทืบไปที่ท้ายทอยเป็นเหตุให้คางกระทบกับพื้นเป็นแผลแตกขนาดปลายนิ้วก้อย ใช้เท้าเตะไปที่บริเวณใบหน้าเป็นเหตุให้มีเลือดออกจากปากแล้วพลทหารวิเชียรฯ ได้ก้มลงกราบพร้อมร้องบอกว่า "ผมเจ็บและจะไม่ทำอีกแล้ว" แต่สิบเอกก็ยังไม่หยุดกระทำ เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดสลับกับการถูกเตะและกระทืบดังมากจนทำให้ร้อยโทผู้ฝึกได้ชะโงกมาจากชั้นบนของอาคารหน่วยฝึก พร้อมสั่งให้ร้อยตรีผู้ช่วยผู้ฝึกอย่าทำให้แรงเกินไปนัก สิบเอกจึงได้ย้ายสถานที่ซ่อมไปด้านข้างของแถว ยังคงใช้ไม้ตีสลับกับการเตะเหมือนเดิมจนกระทั่งร้อยตรีอีกนายได้เข้ามาแย่งไม้ในมือสิบเอกทิ้งอีกครั้ง สิบเอกได้พูดว่า "ไม่มีไม้ใช้มือใช้เท้าแทนก็ได้" และได้ประกาศท้าทายให้ไปฟ้อง ผบ.ทบ.ต่อหน้ากำลังทหารใหม่ประมาน ๒๐๐ นาย
       จนเวลา ๒๓.๐๐ น. ร้อยตรีได้พาพลทหารวิเชียรฯ ไปคุยต่อจนถึงเวลา ๐๑.๐๐ น.เศษ ได้สั่งให้พลทหารวิเชียรฯ ขึ้นโรงนอน ต่อมาวันที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๕๔ มีพยานหลายคนเห็น พลทหารวิเชียรฯ นอนพักอยู่ในห้องพยาบาลบริเวณร่างกายและขามีรอยช้ำบวมหลายแห่งใต้คางมีแผลลึกมีน้ำเหลืองไหลย้อยรอบปากปรากฏคราบเลือด พยานบางคนได้ถามอาการเจ็บป่วยได้รับคำตอบว่า เจ็บปวดไปทั่วร่างกาย ได้ร้องขอให้นำตัวไปส่งโรงพยาบาลเนื่องจากทนความเจ็บปวดไม่ไหว ถึงขั้นมีการสั่งเสียกับเพื่อนพลทหารด้วยกันว่า หากเสียชีวิตลงให้ช่วยแจ้งกับมารดาด้วย แต่ไม่มีผู้ใดสนใจและดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น
       กระทั่งวันที่ ๓ มิถุนายน ๒๕๕๔ จึงได้ส่งตัวไปโรงพยาบาลเจาะไอร้อง ทางโรงพยาบาลเห็นพลทหารวิเชียรฯ มีอาการหนักเกินขีดความสามารถของแพทย์ที่จะรักษาเยียวยาได้ จึงส่งตัวต่อไปยังโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ต่อทันที และหน่วยได้สั่งให้ร้อยตรีที่ไม่ได้ร่วมกระทำไปดูอาการของพลทหารวิเชียรฯ
       ในวันที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๕๔ เห็นพลทหารวิเชียรฯ อยู่ในห้องไอซียูพร้อมญาติ บริเวณทั่วทั้งลำตัวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้ามีแต่บาดแผลและรอยช้ำบวม สอบถามแพทย์ได้รับคำตอบว่า ชีพจรต่ำมาก การตอบสนองของร่างกายไม่มี อาการอยู่ในขั้นโคม่า ท้ายสุดเมื่อวันที่ ๕ เดือนมิถุนายน ๒๕๕๔ เวลา ๒๓.๐๕ น. ณ โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ จังหวัดนราธิวาส พลทหารวิเชียร เผือกสม ต้องจบชีวิตด้วยวัยเพียง ๒๖ ปีเท่านั้น โดยที่สาเหตุการตายมาจากไตวายเฉียบพลันจากกล้ามเนื้อได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงจากการถูกรุมซ้อมทำรายร่างกายโดยฝีมือของครูฝึกในหน่วยฝึกของค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ในสังกัด ร.๑๕๑ พัน.๓ ซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส

   สภาพศพของพลทหารวิเชียร เผือกสม ถ่ายเมื่อวันที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๕๔ เวลาประมาณ ๒๑.๕๐ น. หลังเสียชีวิตเพียง ๒๓ ชั่วโมง ซึ่งถูกครูฝึกทหารใหม่จำนวน ๑๐ นาย ตั้งแต่ยศร้อยโท ร้อยตรี จ่าสิบเอก สิบเอก และพลทหารผู้ช่วยครูฝึกลงโทษซ้อมทรมานตามรายเอียดข้างต้นที่กล่าวไว้ เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๕๔ เวลา ๒๓.๑๕ น. **ส่วนปี ค.ศ.ในภาพต้องเป็น ๒๐๑๑ ซึ่งคือ พ.ศ.๒๕๕๔ กล้องถ่ายรูปตั้งเวลาผิดค่ะ

      
 แย่ ปล.ภาพศพที่โพสต์ลงไปมีความน่ากลัวและไม่เหมาะสม แต่เพื่อให้เป็นอุธาหรณ์ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้ซ้ำขึ้นอีกกับพลทหารนายอื่นใจร้าว
ทางครอบครัวยินยอมให้เปิดเผยสู่สาธารณะค่ะ และเจ้าหน้าที่เป็นผู้รับมอบหมายโดยชอบธรรมตามกฎหมายจากมารดาของพลทหารวิเชียรฯ

แจกสูตรน้ำจิ้มสุกี้รสเด็ดเจ้าดัง!! ที่ใครหลายคนชื่นชอบ..คุณก็ทำเองได้ง่ายๆ!!!




สูตรเมนูน้ำจิ้มรสเด็ดจากคุณ Mr Trin รับรองว่าหลายคนจะต้องคุ้นหน้าคุ้นตาน้ำจิ้มสูตรนี้แน่นอน เราไปดูกันดีกว่าว่าส่วมผสมและขั้นตอนการทำมีอะไรบ้าง!!!


ผมชอบทานสุกี้มากๆเพราะว่ามันเบาๆ แต่อร่อย พอดีว่าผมชอบเสาะหาสูตรน้ำจิ้มสุกี้จากหลายๆเวปแต่มาตกลงปลงใจกับสูตรของคุณบ่งบ๊งหรือคุณพี่บี๊ครับเพราะว่าทำทานแล้วมันใช่เลยเด๊ะๆ  ทานแล้วมันฟินมากๆ เลยเป็นที่มาของกระทู้นี้ครับ เผื่อว่าน้องๆนักเรียน นักศึกษาหรือใครก็ตามที่เพิ่งทำงานรับเงินเดือนใหม่อยากจะทานแบบจัดเต็มแต่ราคาถูกกระเป๋าสามารถทำทานเองได้ เพราะแค่มีกระทะไฟฟ้า ครก   ตู้เย็น มีด เขียง ช้อน ส้อม จาน ชาม บลาๆ ก็พอครับ สูตรนี้คุณบ่งบ๊งหรือคุณพี่บี๊รีวิวไว้นานแล้ว ผมอยากแชร์มากๆ เพราะสูตรนี้อร่อยจริง อะไรจริง วันนี้เลยไปจ่ายตลาดตอนสายๆหน่อย ได้เครื่องปรุงมาตามนี้ครับ  คุณพี่บี๊แสนสวยและใจดีครับ ผมทำตามสัญญาที่ให้ไว้แล้วนะครับ รักมากๆ จุ๊บๆครับ

เรียงลำดับจากซ้ายไปขวานะครับ กระเทียมดอง ซอสหอยนางรม ซอสพริก ซีอิ้วขาว น้ำมันงา น้ำส้มสายชู เต้าหู้ยี้ ซอสมะเขือเทศ น้ำตาล ผักชีฝรั่ง กระเทียม พริกแดง ผักชี และ งาขาวครับ
เรามาเริ่มกันเลยนะครับ


เทซอสพริกทั้งขวดเลยในกระทะ หม้อ หรืออะไรก็ตามที่สามารถทนความร้อนได้ครับ


น้ำส้มสายชู 3 ทัพพี


ซอสมะเขือเทศหรือซอสมะเขือส้ม 1 ทัพพีครับ


ซีอิ้วขาว 3 ทัพพี


ซอสหอยนางรม 1 ทัพพี


น้ำกระเทียมดอง 2 ทัพพี


น้ำตาลทราย 3 ทัพพี


พริกแดง 9 ลูกและกระเทียม 6 กลีบ โขลกให้เข้ากันจนแหลกนะครับ จากนั้น…..


ใส่เต้าหู้ยี้ 4 ชิ้นพร้อมน้ำของมันลงไป ตามภาพครับ


บดขยี้ทุกอย่างจนเข้ากัน จากนั้นตักใส่ในกระทะครับ ทิ้งมันเอาไว้แบบนั้นแหละครับแล้วไปเตรียมอย่างอื่นต่อ


งาขาวผมใช้ประมาณ กำมือนะครับ หอมดี คั่วไฟอ่อนๆ จนได้สีแบบนี้ เวลาคั่วได้ที่แล้วกลิ่นมันจะออกครับ


ซอยผักชีและผักชีฝรั่งแบบนี้ครับ จากนั้นพักมันเอาไว้ก่อน แล้ว…..


คนส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน ติดไฟเลยครับ เบาๆ ไม่ต้องแรงมาก


คนไปเรื่อยๆ รอจนกระทั่งเดือดแบบนี้แล้วปิดไฟเลยครับ


ใส่งาขาวคั่วที่บดแล้วในครกลงไป บดพอแหลกนะครับไม่ต้องละเอียดมากเพราะเดี๋ยวเรามีตัวช่วยปรุงกลิ่นครับ


น้ำมันงา 2 ทัพพี ใส่ลงไปเลยครับ


เมื่อทุกอย่างอยู่รวมกันแล้วก็ค่อยๆคนนะครับ ไม่ต้องกลัว ทุกอย่างจะเข้ากันเป็นอย่างดีไม่แยกชั้นแน่นอนครับแม้ว่าจะแช่ในตู้เย็นก็ตาม


เนื้อน้ำจิ้มจะเนียนวาวแบบนี้ครับ


ความหนืดกำลังพอดี กลิ่นหอมมากๆเลยครับ ฟุ้งทั่วบ้านเลย


ใส่ผักชีและผักชีฝรั่งซอยไวๆ แล้วคนให้เข้ากัน


คุ้นๆ มั้ยเอ่ย เคยเจอน้ำจิ้มแบบนี้ที่ไหนครับ
ที่มา: http://pantip.com/topic/32295229
ขอบคุณกระทู้จากคุณ Mr Trin สมาชิกเว็บพันทิป

นายกฯ ไล่ตะเพิดนักข่าวสำนักดังกลางทำเนียบรัฐบาล เหตุเพราะ??


นายกรัฐมนตรี ไล่ตะเพิดนักข่าวสำนักดังกลางทำเนียบรัฐบาล กรณีนักข่าวถามเรื่องรัฐประหารเพราะอะไร เพราะรัฐประหารมันไม่ใช่ระบบประชาธิปไตยใช่ไหม ? ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะตอบว่า ตอนนี้มันดีกว่าเดิมไหม ? หรือแย่กว่าเดิม ? ขณะนักข่าวสำนักดังตอบนายกรัฐมนตรีว่า ก็ไม่ได้มั่นใจ ต้องรอให้รัฐธรรมนูญเสร็จเสียก่อน ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ตอบว่า ปัดโธ่ ! กลับไปเลยก่อนวันที่ 22 พฤษภาคม (ก่อนวันรัฐประหาร)
ไปเลยข้างถนน ไปเลย ไป ไปอยู่แบบนั้น ชอบแบบนั้นก็เอาดิ ไม่สนอะไรเลยว่าบ้านเมืองจะเป็นอย่างไร ไม่สนใจ ลบไปเถอะประชาธิปไตย ลบไปเถอะรัฐธรรมนูญ ผมถาม เขียนกฏหมายก็ไม่นับถือกัน ไม่เคารพกฏหมาย...... แล้วผมถามว่าที่ผ่านมา การเมืองมันแก้ได้ไหม ได้ไหม ที่มันล้มเหลวทุกวันนี้แก้ได้ไหม .....
ซึ่งก่อนหน้านั้นนักข่าวสำนักดัง ได้ถามนายกรัฐมนตรี ว่า การรัฐประหารมันไม่ใช่ระบบประชาธิปไตยใช่ไหม ? ซึ่งระบบประชาธิปไตยต้องมีการเลือกตั้งนะครับ ก่อนที่นายกรัฐมนตรีไล่ตะเพิดนักข่าวคนดังกล่าวไปกลับไปอยู่ข้างถนน (ชุมนุมประท้วงทั้งสองฝ่าย ซึ่งเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก)

ชมคลิป

นายกรัฐมนตรี ไล่ตะเพิดนักข่าว กลางทำเนียบรัฐบาล
นายกรัฐมนตรี ไล่ตะเพิดนักข่าวสำนักดังกลางทำเนียบรัฐบาล กรณีนักข่าวถามเรื่องรัฐประหารเพราะอะไร เพราะรัฐประหารมันไม่ใช่ระบบประชาธิปไตยใช่ไหม ? ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะตอบว่า ตอนนี้มันดีกว่าเดิมไหม ? หรือแย่กว่าเดิม ? ขณะนักข่าวสำนักดังตอบนายกรัฐมนตรีว่า ก็ไม่ได้มั่นใจ ต้องรอให้รัฐธรรมนูญเสร็จเสียก่อน ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ตอบว่า ปัดโธ่ ! กลับไปเลยก่อนวันที่ 22 พฤษภาคม (ก่อนวันรัฐประหาร) ไปเลยข้างถนน ไปเลย ไป ไปอยู่แบบนั้น ชอบแบบนั้นก็เอาดิ ไม่สนอะไรเลยว่าบ้านเมืองจะเป็นอย่างไร ไม่สนใจ ลบไปเถอะประชาธิปไตย ลบไปเถอะรัฐธรรมนูญ ผมถาม เขียนกฏหมายก็ไม่นับถือกัน ไม่เคารพกฏหมาย...... แล้วผมถามว่าที่ผ่านมา การเมืองมันแก้ได้ไหม ได้ไหม ที่มันล้มเหลวทุกวันนี้แก้ได้ไหม .....ซึ่งก่อนหน้านั้นนักข่าวสำนักดัง ได้ถามนายกรัฐมนตรี ว่า การรัฐประหารมันไม่ใช่ระบบประชาธิปไตยใช่ไหม ? ซึ่งระบบประชาธิปไตยต้องมีการเลือกตั้งนะครับ ก่อนที่นายกรัฐมนตรีไล่ตะเพิดนักข่าวคนดังกล่าวไปกลับไปอยู่ข้างถนน (ชุมนุมประท้วงทั้งสองฝ่าย ซึ่งเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก)
Posted by Gen Prayut Chan o cha - แฟนคลับ on 22 ตุลาคม 2015

ตำนานฆาตกรคดีสะเทือนขวัญ ผู้ฆ่าข่มขืนเด็กหญิง5ขวบ !



ตำนานฆาตกรคดีสะเทือนขวัญ ผู้ฆ่าข่มขืนเด็กหญิง5ขวบ



 
ที่มา: http://clip.teenee.com/etc/44830.html
ขอบคุณ Youtube :: BiRdY
โดย :OnTheWay TeeNee.Com

น.ส โหด ตามตบ คู่อริ!!กลางถนน เพื่อนไม่ช่วยกูเลย (มีคลิป)

น.ส โหด ตามตบ คู่อริ!!กลางถนน เพื่อนไม่ช่วยกูเลย (มีคลิป)




น่าชื่นชมจริงๆ!! สาว ม.ปลาย ขอเงินพ่อแม่ 3พันบาท ลงทุนทำงานจนมีเงินล้าน ปลดหนี้ให้พ่อกับแม่ได้สำเร็จ

20151030083332.jpg

การจะประสบความสำเร็จไม่จำเป็นต้องมีอายุเยอะ หากคนเราคิดที่จะทำ รู้จักวางแผนและตั้งใจทำ สุดท้ายก็จะประสบความสำเร็จได้ วันนี้เราได้หยิบยกเรื่องราวดีๆเรื่องหนึ่ง เกี่ยวกับ เด็กสาวม.ปลาย วัย 18 ปี น้องมิ้ว รัญชิดา กมลฉัตรนิธิเธอเป็นเด็กรุ่นใหม่ที่หาเลี้ยงชีพจากสื่อออนไลน์ กระทั่งปัจจุบันเธอสามารถช่วยครอบครัวปลดหนี้เป็นล้านได้สำเร็จ แถมยังมีเงินเก็บและหมุนเวียนในธุรกิจอีก 5-6 ล้านบาท เธอทำได้อย่างไรกัน ไปดูกันเลย

"หนูขายของตั้งแต่อยู่มอ 2 ขายทางเฟสบุค ตอนนั้นยังไม่มีไอจี เริ่มแรกขายเสื้อผ้า ใช้ไอพอดหน้าจอแตกถ่ายกล้องหน้า วางไอพอดบนตะกร้าผ้ากลับด้านพิงกับกล่องกระดาษทิชชู่ พี่ลองนึกภาพนะ 555555 แล้วใช้กล้องหน้าตั้งเวลาถ่าย แอคไปเกือบ 100 ภาพ เสื้อผ้าที่ขายหนูรับมาจากจากประตูน้ำ ต้องตื่นแต่เช้านั่งรถเมล์ไปเองคนเดียว แบกคนเดียวเดินขึ้นสะพานลอย ข้ามมาขึ้นรถเมล์ บอกเลยหนักมากๆ แบกถุงเกือบ10 ถุง มือแดงแบกคนเดียวประมาณ 70-100 ตัว/อาทิตย์ จากนั้นหนูก็เอามาโพสลงเฟสบุค ลูกค้าเห็นก็เริ่มเม้นใต้ภาพกันไวมากๆ หนูเองก็เริ่มจากขายเสื้อผ้าในเฟสนี่แหละที่ทำให้เรามีฐานลูกค้าจนถึงวันนี้”


“พอมีเงินก็อยากสวย เลยไปหาซื้อครีมใช้ โดยส่วนตัวเป็นคนชอบซื้อครีมในเน็ตมากๆ แบบคำโฆษณาชวนเชื่อ แบบทาผิวกายขาว 3 วัน สิวหาย 1 คืน อะไรแบบนี้ ถึงมันจะดูโอเว่อแต่มันก็จูงใจคนอ่าน อะไรดีหนูก็ซื้อหมด ถึงกระทั่งนั่งจดว่าอยากได้ครีมอะไร แล้วก็ไปเจอตัวครีมมาร์คหน้าตัวหนึ่งดีมากๆ แบบมันแค่มาร์คก่อนนอน 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ไม่ต้องใช้บ่อย หน้าก็ใส เพราะมันมีสารสกัดเข้มข้น ฟื้นฟูไวมาก หนูก็เลยไปรับเค้ามาขาย จนแบบอยากทำเองก็หาโรงงานเลยจ้า บอกอยากได้สูตรแบบนี้ หนูก็เริ่มลงทุนทำจาก 50 กระปุกต่อเดือน ตอนแรกยังขายไม่หมด แบบเคยมีช่วงหนึ่งขนาด 1 กระปุกยังขายไม่ได้เลย แต่หนูก็ไม่ท้อนะ พยายามหาคนช่วยโพส ลงโปรโมตต่างๆ เม้นฝากร้านใต้ภาพดารา ไอจีดารา ทำทุกอย่าง บางคนเห็นพวกแม่ค้าไปเม้นฝากร้านคงรำคาญ ก็พวกหนูนี่แหละ 55555 ถ้าเราไม่ทำเราก็ขายของไม่ได้ พูดเลยตอนนั้นเม้นใต้ภาพ ฝากร้านพิมพ์จนมือหงิก แต่พอทุกอย่างเริ่มเข้าที่ หนูก็เริ่มมีตัวแทนช่วยขาย ช่วยโปรโมตตั้งแต่ตอนนั้น ของก็เริ่มพัฒนาทุกๆอย่างมีกล่องแพ็คเกจเป็นของตัวเอง ทำทุกอย่าง จากเคยขายได้ 50กระปุก กลายเป็น 100 เป็น 500 เป็นพัน เป็นหมื่นกระปุกต่อเดือน”



" โดนคนรอบข้างต่อว่าวัยอย่างเราไม่ควรไปทำงาน น่าจะตั้งใจเรียนมากกว่า คือหนูไม่กล้าบอกอายุเวลาคุยกับลูกค้า กลัวเขาไม่เชื่อเรา เพราะส่วนใหญ่จะมองว่าเฮ้ย เป็นแค่เด็กมอปลาย ยังไม่จบมอหกด้วยซ้ำ เอาเวลาไปตั้งใจเรียนมากกว่าดีมั้ย เขาบอกว่าวัยอย่างมิ้ว ยังไม่เหมาะทำงาน มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ มิ้วก็ไม่รู้จะตอบเขายังไงเพราะมิ้วจำฝังใจว่าครอบครัวเราไม่ได้ร่ำรวย พ่อแม่ต้องทำงานหนัก มิ้วยังจำภาพได้เลยว่าครอบครัวมิ้วทำเกี่ยวกับรับเหมาก่อสร้าง รับซ่อมไฟฟ้าประปา แต่มีช่วงหนึ่งที่บ้านประสบปัญหา คือไม่มีงานเลย หนูก็แบบช่วยทุกทาง แบบโพสลงเน็ตว่ารับซ่อม ไปหาแจกใบปลิว แบบเอาใบปลิวไปเสียบตามบ้าน นั่งซ้อนมอเตอร์ไซต์ตากแดดดำๆ ไปแปะตามเสาไฟฟ้าเพื่อช่วยให้ครอบครัวที่บ้านมีงาน มิ้วเข้าใจถึงความลำบาก แต่คนอื่นที่มองเขาไม่เข้าใจ ใครจะไปคิดละว่าจากงานเล็กๆที่หนูลองผิดลองถูกทำมาคนเดียวจะพาครอบครัวมาถึงจุดนี้ได้”




"ไม่เคยขอเงินหรือรบกวนเงินจากพ่อแม่ซื้อมือถือหรือไอโฟนแพงๆทุกอย่างได้จากน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง จากแต่ก่อนตอนยังไม่ขายครีม ยังไม่ขายเสื้อ หนูคิดว่าแค่ไอโฟน 1 เครื่อง หนูไม่มีปัญญาซื้อแน่ๆ แต่จากเงินทุน 3,000 ของพ่อที่ให้หนูไปซื้อเสื้อที่ประตูน้ำและเอากำไรลงทุนทำครีมขายต่อทำให้ มิ้วเข้าใจคุณค่าของเงินว่ากว่าจะได้มามันยากแค่ไหน เวลาเห็นเพื่อนใช้มือถือแพงๆ เราเนี่ยไม่อยากได้เลยถ้าเราไม่ได้หาเงินเอง เพราะแบบสงสารพ่อแม่ไหนจะหาเงินมาให้เราเรียนแล้ว ยังต้องมาผ่อนมือถือให้ลูกอีก มิ้วว่ามันไม่ใช่ นี่แหละถึงคิดว่าอยากได้อะไรก็ต้องหาเอง ขอบคุณพ่อแม่ที่ไม่ตามใจมิ้ว รู้สึกโชคดีที่เกิดมาในครอบครัว กมลฉัตรนิธิ แม่บอกว่า มิ้วทำให้ครอบครัวเรากลับมาเป็นเหมือนเดิม ทุกคนมีความสุข สำหรับมิ้ว ใครจะว่าเงินไม่ใช่ปัจจัย4 ก็ช่างแต่ทุกอย่างก็ต้องใช้เงินซื้อ โชคดีที่เราเริ่มไวและจับธุรกิจถูกตัว ตอนนั้นแม่ค้าออนไลน์ก็ยังไม่เยอะแบบตอนนี้ อยากจะแนะนำว่าคนที่คิดจะขายของ ต้องคิดก่อนว่าเราจะขายอะไร จะขายใคร มีจุดเด่นกว่าแบรนด์อื่นตรงไหนและที่สำคัญต้องซื่อสัตย์ต่อลูกค้าค่ะ ใจแลกใจถึงจะประสบความสำเร็จค่ะ ยังไงเป็นกำลังใจสำหรับคนสู้ชีวิต ไม่เริ่มต้นสร้างชีวิตวันนี้แล้วจะเริ่มเมื่อไหร่ ไม่มีคำว่าสายหากเรายังไม่ได้ลอง”


สามารถติดตามเรื่องราวของน้องมิ้ว ได้ที่ IG @milkyrunchida และเฟสบุค  รัญชิดา กมลฉัตรนิธิ

คลิปเดือด! ประชุมสภาเทศบาลฯ... ถึงกับขู่ควักปืนยิงทิ้ง

 
ข้อความประกอบคลิป  บางทีคนมีการศึกษาดีก็สันดานถ่อยสุดๆ แม้กระทั้งอยู่ในสภาอันมีเกียรติก็ตาม (แค่ความคิดอุดมการณ์ไม่ตรงกันก็ถึงกับจะย­ิงกันเลยหรอ) โปรดใช้วิจารณญาณ
 
 

ฮือฮา! “ก๋วยเตี๋ยวใบพายไจแอ้นท์” เจ้าของร้านท้ากิน35นาที หมดกินฟรี – ไม่หมด600บาท

ร้าน ก๋วยเตี๋ยวใบพายไจแอ้นท์ž ชามยักษ์ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 50 เซนติเมตร สูง 13 เซนติเมตร เฉพาะเส้นและเนื้อลูกชิ้น มีน้ำหนักร่วม 2 กิโลฯ ราคาชามละ 600 บาท แต่ทางร้านท้าทายว่า หากลูกค้าคนใดสามารถกินหมดภายในเวลา 35 นาที จะให้กินฟรีโดยไม่ต้องจ่ายเงิน
ฮือฮา! “ก๋วยเตี๋ยวใบพายไจแอ้นท์” เจ้าของร้านท้ากิน35นาที หมดกินฟรี – ไม่หมด600บาท
2
เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 26 ต.ค. ผู้สื่อข่าวไปสังเกตการณ์ภายในร้านครัวตุ๋น เลขที่ 158/1 ถนนทุ่งโฮเต็ล ต.วัดเกตุ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ร้าน ก๋วยเตี๋ยวใบพายไจแอ้นท์ž ชามยักษ์ ที่ขายเส้นก๋วยเตี๋ยว เนื้อ ลูกชิ้น ในชามสั่งพิเศษ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 50 เซนติเมตร สูง 13 เซนติเมตร เฉพาะเส้นและเนื้อลูกชิ้น มีน้ำหนักร่วม 2 กิโลฯ ราคาชามละ 600 บาท แต่ทางร้านท้าทายว่า หากลูกค้าคนใดสามารถกินหมดภายในเวลา 35 นาที จะให้กินฟรีโดยไม่ต้องจ่ายเงิน พร้อมรับรางวัลผู้พิชิต ฮอลล์ ออฟ เฟม จากทางร้านไปเลย
ซึ่งพบว่าตลอดทั้งวัน นอกจากลูกค้ามาทานก๋วยเตี๋ยวเนื้อ น้ำซุปเครื่องยาจีนรสชาติกลมกล่อมที่ร้านเป็นจำนวนมากแล้ว ก็มีส่วนหนึ่งรับคำท้ากินก๋วยเตี๋ยวชามยักษ์กันอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน อย่างไรก็ตามยังไม่มีลูกค้าคนใดสามารถทานหมดใน 35 นาที แต่มีลูกค้าที่สนใจมากขอถ่ายภาพและเช็กอินกับก๋วยเตี๋ยวชามยักษ์ด้วย
2 (1)
ด้านนายพัฒนณัฐฏ์ วงศ์วรรณ อายุ 36 ปี เจ้าของร้านครัวตุ๋นเผยว่า สำหรับร้านครัวตุ๋นนี้ได้เปิดมาแล้วกว่า 3 ปี ซึ่งจุดเด่นของร้านคือจะใช้แต่เนื้อคุณภาพ และใช้น้ำซุปยาจีนที่หอมและกลมกล่อมโดยไม่ใช้ผงชูรส รวมทั้งก๋วยเตี๋ยวเนื้อวากิวที่เสิร์ฟมาให้แก่ลูกค้าจะเป็นการเสิร์ฟแบบสดๆ เพื่อให้ลูกค้าได้เห็นว่าเนื้อที่ทางร้านได้คัดเลือกมาสดและมีคุณภาพจริงๆ สำหรับการท้าชิงก๋วยเตี๋ยวชามยักษ์ เพื่อคืนกำไรให้แก่ลูกค้าเริ่มจากการที่ตนเป็นคนที่ชอบทานก๋วยเตี๋ยว จึงลองทำก๋วยเตี๋ยวใบพายไจแอ้นท์ขึ้นมา โดยจะใช้เส้นก๋วยเตี๋ยว 1 กิโลกรัม เนื้อวัว ลูกชิ้น 500 กรัม และผักอีก 300 กรัม ใส่ในชามที่สั่งทำพิเศษ กว้าง 50 เซนติเมตร สูง 13 เซนติเมตร มาเสิร์ฟสดๆ ให้ลูกค้าได้ท้าชนกับทางร้าน ซึ่งหากทานหมดใน 35 นาที ก็ทานฟรีไปเลย รวมทั้งทางร้านจะมีการถ่ายภาพติดที่ร้าน ประกาศให้เป็นบุคคลฮอลล์ ออฟ เฟม ของทางร้าน พร้อมทั้งยังได้รับเสื้อผู้พิชิตก๋วยเตี๋ยวใบพายไจแอ้นท์อีกด้วย
1

อ่านเรื่องนี้ดู แล้วคุณจะ จุกจนพูดไม่ออก! ‘ไปเซอไพรส์วันเกิด แฟน เจอเซอไพรส์กลับ ...

อ่านเรื่องนี้ดู แล้วคุณจะ จุกจนพูดไม่ออก! ‘ไปเซอไพรส์วันเกิด แฟน เจอเซอไพรส์กลับ ’
เป็นประสบการณ์ความรักที่อ่านแล้ว ช้ำแทนเลยทีเดียว เมือ่ สาวคนหนึ่ง ถือเค้ก วันเกิดไปเซอร์ไพร้ซ์ แฟนซึ่งคบกันมาถึง 9 ปี ที่ห้อง แต่เมื่อไปถึง กับ เจอเซอร์ไพร้ซ์กลับ ชนิดที่อึ้ง และ จุก จนพูดไม่ออกบอกไม่ถูก
เหตุการณ์ จะเป็นอย่างไร ลองอ่านกันดู***อ่านให้จบนะ จนถึงบรรทัดสุดท้าย เพราะเรื่องเซอร์ไพร้ซ์ยิ่งกว่ามันอยุ่ตรงนั้น***
'เรื่องมีอยู่ว่า วันนี้วันเกิดแฟนที่คบมาประมาณ 9 ปี ปกติวันเกิดเราก็จะได้อยู่ด้วยกัน แต่ปีนี้หมอดูทักว่าแฟนเราอาจจะโดนลูกหลง อะไรสักอย่าง ให้ระวังตัว เค้าจึงอยู่หอ ไม่ได้มาบ้านเรา เพราะไม่อยากออกไปไหน เราก็โอเค เป็นห่วงเค้า ไม่อยากให้ออกมา ก็เลยตั้งใจจะไปหาเค้าที่หอ ซื้ออะไรไปกินกัน โดยไม่ได้บอกล่วงหน้า กะไปเซอไพรส์ ว่างั้น
เข้าไปเคาะหน้าต่าง แฟนเราเปิดประตูออกมา แต่ไม่ได้อยู่คนเดียว มีคนตามออกมาด้วย เราก็รู้ว่าเป็นแฟนเก่าเค้า แฟนเราพูดว่า "อ๊าวไม่เห็นบอกว่าจะมา" ด้วยความโกรธปนกับความจุก และความอึ้ง เลยส่งถุงอาหารให้เค้าแล้วบอกว่า เอาไว้กินแล้วกัน แล้วก็เดินออกมาเลย ลงบันไดมาแบบเข่าอ่อน ๆ
เราเคยมีปัญหาเรื่องแฟนเก่าเค้ามาตลอดในช่วงแรก ที่คบและมีมาเรื่อย ๆ เป็นพัก ๆ แต่เราก็เชื่อใจ เพราะแฟนเราบอกว่าไม่ได้คิดอะไร เพราะเด็กกว่า ที่เคยคุยก็ทะเลาะกันตลอด คงอยู่ด้วยกันไม่ได้ และก็รู้สึกว่าเด็กคนนี้ไม่ใช่ แต่เราก็รู้ว่าเค้าห่วงแฟนเก่าคนนี้ และผูกพันกันมานาน ตั้งแต่ช่วงเด็กคนนี้ยังเป็นวัยรุ่น และแฟนเราพึ่งเริ่มทำงาน
แต่เราก็คิดเสมอว่าเราคือตัวจริง เราก็แมน ๆ ปล่อยไป แล้วก็รู้ว่าวันเกิด ไอเด็กคนนี้ต้องเอาไรมาให้ทุกปี แต่ที่ระยะหลังไม่ระแวงอะไรเพราะเรากับแฟนก็คบกันมานาน ไม่มีเรื่องราวทะเลาะอะไรกัน คลื่นสงบมาตลอด เราจึงไม่เคยเอะใจอะไรเลย.....
ต่อ
ออกมาสักพักเค้าก็โทรมา เราก็ไม่รับ กะให้ง้อให้เข็ด (ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าตัวเองกำลังจะกลายเป็นคนเก่าของเค้าแล้ว) ไม่รับ ไม่อ่านไลน์ ถึงบ้านสักพักหยิบมาเปิดไลน์จนได้แหละ เค้าบอกว่า รู้ว่าเราเสียใจ ผิดหวัง ขอโทษ แต่อยากคุยกับเรา เราเลยถามว่า
เรา : คุยอะไรล่ะ
เค้า : ไม่มีอะไรจะถามเค้าใช่มั้ย
เราก็ไม่ตอบ
จากที่คิดว่าตัวเองเป็นต่อมาตลอด กะให้เค้าง้อ

เค้าบอกว่า ใช่เด็กคนนี้มาหาเค้าตลอด และเมื่อวานก็มาอยู่เป็นเพื่อนเค้า เค้าตัดเด็กคนนี้ไม่ขาด เค้าขอโทษ และไม่สามารถกลับไปเป็นแบบเดิมกับเราได้อีก ต้องการแค่ความเป็นเพื่อนกับเรา เด็กคนนี้ไม่เคยไปจากเค้า เค้ายอมแพ้ใจตัวเอง
เหมือนฟ้าผ่า บอกไม่ถูก มันจุก อึ้ง แต่เราไม่มีน้ำตาเลยนะ 9 ปี มันนานไปมั้ยกว่าที่เค้าจะรู้ใจตัวเอง
มันนานจนทำให้เราเชื่อใจทุกอย่าง เราไม่เคยมองใครไม่เคยนอกใจ คิดจะอยู่กับเค้าไปจนแก่
เราขอบคุณที่เค้าบอก (แมนได้อีก)
แต่เค้าขอความเป็นเพื่อนจากเรา เค้าไม่อยากเสียเราไป เราดีที่สุดกับเค้า อยากคุยปรึกษา กับเราได้เหมือนเดิม เค้าถามว่าเราจะให้ความเป็นเพื่อนกับเค้าได้มั้ย
.........

จนถึงนาทีนี้ เราก็ไม่อยากจะเชื่อว่าทั้งหมดมันคือเรื่องจริง มันไม่มีวี่แววอะไรก่อนหน้าเลย แต่เชื่อมั้ยว่าตาขวาเรากระตุกมาเป็นเดือน คิดไปต่าง ๆ ว่าจะมีเรื่องอะไรไม่ดี แต่เรื่องนี้เรื่องเดียวที่เราไม่เคยคิดว่ามันจะเกิดขึ้น นอนไม่หลับ ไม่อยากฝืน

เรื่องนี้เกิดขึ้นระหว่าง ผญ 3 คน
'

ที่มา: http://variety.teenee.com/foodforbrain/72907.html
ที่มาจาก ::คุณ alone in the wind
http://pantip.com/topic/34360945

สะใจทั่วประเทศ!!! เมื่อบัวขาว บัญชาเมฆ จัดการไล่ถลุงเจ้าตี๋จอมกร่างอย่างกูฮุยแบบนี้ เจอไปขนาดนี้คงเข็ดไปอีกนานแน่นอน!!! (มีคลิป)


 

สะใจทั่วประเทศ!!! เมื่อบัวขาว บัญชาเมฆ จัดการไล่ถลุงเจ้าตี๋จอมกร่างอย่างกูฮุยแบบนี้ เจอไปขนาดนี้คงเข็ดไปอีกนานแน่นอน!!! (มีคลิป)
   ถูกใจแฟนมวยที่รอชมกันมานานจริงๆ สำหรับไฟท์นี้ เมื่อต้องมาเจอกับเจ้าตี๋จอมกร่างอย่าง กูฮุย ที่ออกลีลาไม่มีเกรงบัวขาวตั้งแต่ชั่งน้ำหนัก จนกระทั่งถึงตอนแถลงข่าว งานนี้บัวขาวเลยจัดหนักให้แบบสะใจแฟนมวยทั่วโลก เล่นเอากูฮุยถึงกับหมดสภาพ ท่าทางเจอคราวหน้าคงไม่กล้ากับพี่บัวขาวอีกแน่นอน


loading...