loading...

เหยื่อสาวโผล่อีกราย!! โจ๋บุกบ้านข่มขืน-ทั้งที่เป็นญาติ ก่อนไปก่อคดีโหดย่ำยีแม่เพื่อนสาหัส

จากคดีสะเทือนขวัญเยาวชนอายุ 16 ปี ลวงแม่ของเพื่อนอายุ 43 ปี ไปข่มขืนและทำร้ายร่างกายสุดโหดบาดเจ็บสาหัส จนเหยื่อต้องแกล้งตาย จึงรอดชีวิต แล้วชิงเอารถจักรยานยนต์และกระเป๋าสตางค์หลบหนีไป โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 ต.ค. ที่ผ่านมา บริเวณป่าละเมาะข้างทางรถไฟ ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.โคกกรวด อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวเยาวชนที่ก่อเหตุได้ ขณะหลบหนีไปหาพ่ออยู่ที่ห้องเช่า เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร เมื่อบ่ายวันที่ 23 ต.ค. โดยล่าสุด เมื่อเวลา 01.15 น. วันที่ 24 ต.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวผู้ต้องหามาที่ สภโพธิ์กลาง อ.เมืองนครราชสีมา ท้องที่เกิดเหตุ
 โจ๋บุกบ้านข่มขืน-ทั้งที่เป็นญาติ ก่อนไปก่อคดีโหดย่ำยีแม่เพื่อนสาหัส
จากนั้นเวลา 11.25 น. วันที่ 24 ต.ค. ร.ต.ท.เกรียงไกร ปรอยกระโทก ร้อยเวรสอบสวน สภ.โพธิ์กลาง พร้อมกำลังตำรวจกว่า 10 นายคุ้มกัน เพื่อป้องกันการรุมประชาทัณฑ์ของญาติผู้เสียหาย ได้นำตัวผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ ออกจากห้องควบคุมผู้ต้องหา เพื่อส่งศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนครราชสีมา โดยตำรวจได้แจ้งข้อหา ข่มขืนกระทำชำเรา จนเป็นอันตรายสาหัส ข้อหาพยายามฆ่า และข้อหาชิงทรัพย์ ซึ่งมีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต
อย่างไรก็ตาม ในการนำตัว ผู้ต้องหา ส่งฟ้องศาลฯ ในครั้งนี้ ได้มีการแจ้งความเพื่อดำเนินคดีเพิ่มอีก 1 สำนวน ทั้งนี้เนื่องจาก หลังเกิดเหตุในวันที่ 22 ต.ค. ได้มีผู้เสียหาย เป็นหญิงสาวอายุ 22 ปี ซึ่งเป็นชาวบ้านในหมู่บ้านเดียวกับผู้ต้องหา และเป็นญาติกันกับผู้ต้องหาอีกด้วย ได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.เกรียงไกร ว่า ถูกผู้ต้องหารายนี้ บุกเข้าไปทำร้ายร่างกายข่มขืนกระทำชำเราภายในบ้าน ขณะกำลังเตรียมตัวไปทำงาน
เหตุเกิดตั้งแต่เช้าตรู่วันที่ 16 ต.ค. ที่ผ่านมา แต่ก่อนหน้าไม่กล้าเข้าแจ้งความ เนื่องจากเห็นว่าเป็นญาติกัน โดยเหตุการณ์ดังกล่าว ญาติผู้เสียหาย และญาติผู้ต้องหา จึงพูดคุยกันแล้ว ตกลงกันได้ จึงเป็นเพียงการลงบันทึกประจำวันไว้ แต่ยังไม่ได้ดำเนินคดี จากนั้น ผู้ต้องหารายนี้ยังได้ใจ ได้ไปก่อเหตุหลอกนางบี แม่ของเพื่อนมาข่มขืนและทำร้ายร่างกาย รวมทั้งชิงทรัพย์ผู้เสียหายอีกด้วย ตำรวจจึงเห็นว่าคงปล่อยไว้ไม่ได้ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาข่มขืนกระทำชำเราและบุกรุกเคหะสถานโดยไม่ได้รับอนุญาต เพิ่มเติมแก่เยาวชนผู้ต้องหารายนี้อีกด้วย
จากนั้นศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดนครราชสีมาได้นำตัวผู้ก่อเหตุมาสอบสวนต่อหน้าสหวิชาชีพ ประกอบด้วยอัยการ พนักงานสอบสวน นักจิตวิทยาหรือนักสังคมสงเคราะห์ และตัวแทนของผู้ต้องหา เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นเยาวชน อย่างไรก็ตามจากการสอบถามเบื้องต้น ผู้ต้องหา ยังให้การปฏิเสธ ทั้ง 2 กรณี อ้างว่า รู้จักกับผู้เสียหายทั้งสองราย แต่ก็ไม่ได้ลงมือข่มขืน หรือทำร้ายแต่อย่างใด พร้อมกับพูดจาวกไปวนมา แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าทั้งสองกรณีมีหลักฐานและพยานแน่นหนา เนื่องจากผู้เสียหายทั้งสองราย รู้จักกับผู้ก่อเหตุเป็นอย่างดี จึงส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้านนางบี ผู้เสียหายที่พักรักษาตัวอยู่ รพ.แห่งหนึ่งในเขต จ.นครราชสีมา โดยอาการบาดเจ็บยังสาหัส แต่แพทย์ระบุว่าปลอดภัยแล้ว ได้กล่าวยืนยันทั้งน้ำตาว่า ตนเองถูกผู้ต้องหาล่อลวงออกจากบ้าน โดยอ้างว่าบุตรชายของตนถูกตำรวจจับกุม ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์แข่งกัน ตนจึงหลงเชื่อ และขับรถตามผู้ต้องหาไป เพื่อจะไปช่วยเหลือลูก จนถูกผู้ต้องหาออกอุบายทำร้ายร่างกายและกระทำการดังกล่าวจริง
หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ ตนก็ขอให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรมของกฎหมาย แม้ใจจริงแล้วอยากให้ผู้ต้องหาตายไป เพื่อชดใช้กรรมที่ก่อขึ้นกับตนเอง แต่ตนก็คงทำอย่างนั้นไม่ได้ เพราะบ้านเมืองมีกฎหมายที่ต้องเคารพ ยอมรับว่าญาติพี่น้องจำนวนมากที่ทราบข่าวยังรอเวลาที่ตำรวจจะนำตัวผู้ต้องหามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพอยู่ ด้วยความโกรธแค้น

loading...